นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า วันนี้ (30 กันยายน 2562) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 9/2562 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งรวมถึงโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล หรือดิจิทัลพาร์ค ไทยแลนด์ (อีอีซีดี) ด้วย
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้นางสาวอัจฉรินทร์ พิพัฒน์พันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส, บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) ในโครงการอีอีซีดีใหม่ หลังจากที่มีการเปิดขายซองเทคนิคคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนในโครงการ และเปิดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอแล้ว พบว่า ไม่มีเอกชนรายใดสนใจเข้าร่วมลงทุน
“ได้เสนอให้มีการปรับปรุงข้อกําหนดต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับกับทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น 1.ทบทวนเรื่องสิทธิประโยชน์ การใช้สอย รวมถึงอัตราค่าเช่าพื้นที่ ที่ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ โดยเทียบเคียงข้อมูลกับนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง 2.สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับนักลงทุน เนื่องจากพื้นที่ในโครงการเป็นพื้นที่เช่าระยะยาว แตกต่างจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ฉะนั้น จึงต้องพิจารณาถึงข้อดีของโครงการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และ 3.เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าความเร็วสูง สถานีศรีราชาออกไป 6 กิโลเมตร จึงต้องผลักดันให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงพื้นที่ อาทิ ระบบขนส่งสาธารณะแบบรางเบา เพื่อจูงใจนักลงทุนเพิ่มขึ้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ จะมีการหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอความชัดเจนการขับเคลื่อนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, อู่ตะเภา) หรือไฮสปีดเทรน รวมถึงกระบวนการ ขั้นตอนการดำเนินการด้วย โดยเชื่อว่า โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และจูงใจนักลงทุนให้เกิดการลงทุนในโครงการอีอีซีดี
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว