วันที่ 6 ตุลาคม นายรวบ เปรมประสิทธิ์ ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้จัดประชุมเตรียมพร้อมการจัดเวทีประชาพิจารณ์ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ เพื่อรับฟังความเห็นจากสมาชิกนิคมสร้างตนเอง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่หลายอำเภอ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเอกสารสิทธิ นค.3 กว่า 1,000 แปลง ไม่สามารถนำไปออกเป็นโฉนดที่ดินเพื่อแปลงเป็นทุนได้ หลังจากก่อนหน้านี้มีการประชุมสัญจร 4 เวทีเก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารสิทธิที่ดิน จากนั้นได้ทำหนังสือยื่นถึงอธิบดีกรมป่าไม้ โดยการประสานงานของนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เร่งรัดดำเนินการแก้ปัญหาที่ดินกรณีที่ดิน นค.3 ที่นิคมสร้างตนเองจัดสรรให้ประชาชนทับซ้อนกับเขตที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้กรมที่ดินไม่สามารถออกโฉนดให้ได้ เนื่องจากต้องรอกรมป่าไม้แก้ไขแผนที่ท้ายกฎกระทรวงป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรี ในส่วนที่ทับซ้อนกับแผนที่นิคมฯให้เสร็จก่อน
นายรวบกล่าวว่า สมาชิกนิคมฯจำนวนมากรอให้หน่วยงานรัฐแก้ปัญหานานกว่า 50 ปี แต่ไม่คืบหน้า ล่าสุดการทำประชาพิจารณ์ที่ห้องประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย หมู่ 14 บ้านทุ่งยาว จะมีส่วนราชการจากกรมป่าไม้ ตัวแทนกระทรวงมหาดไทย สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเปิดให้สมาชิกนิคมฯร่วมกันแสดงความคิดเห็น สะท้อนปัญหาและวางกรอบแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนร่วมกัน หลังการจัดเวทีประชาพิจารณ์คาดว่ากรมป่าไม้จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการแก้ปัญหา เนื่องจากอธิบดีกรมป่าไม้แจ้งให้ทราบว่า หากที่ดินแปลงใดเคยกำหนดเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและหน่วยงานรัฐนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่ทางกรมป่าไม้จะเรียกคืนมาเป็นของรัฐอีก
“สำหรับการทำประชาพิจารณ์คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน โดยมีประชาชนจาก 12 หมู่บ้านในเขตนิคมสร้างตนเองตำบลอ่าวน้อย ผู้เกี่ยวข้องบางส่วนจาก ต.เกาะหลัก ต.คลองวาฬ อ.เมือง ชาวบ้านจาก อ.กุยบุรี อ.ทับสะแก ในพื้นที่ของนิคมฯเข้าร่วมสังเกตการณ์ โดยคณะกรรมการสภาองค์กรชุมชนตำบลอ่าวน้อย ร่วมกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น กลุ่มแม่บ้าน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ จัดเต็นท์ เก้าอี้ อาหารและน้ำดื่มไว้บริการฟรีกับผู้เข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายรวบกล่าว
