เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง ค่ายเม็งรายมหาราช พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วย พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 พ.อ.สุทธิ์เขตต์ ศรีอินทิน ผบ.ฉก.31 ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงตรวจยึดยาบ้าจำนวน 3,036,000 เม็ด และไอซ์ 40 กิโลกรัม
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทหารพรานนำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ม.3 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ตั้งจุดตรวจที่บริเวณเส้นทางรอง บ้านงิ้วเฒ่า ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังได้รับรายงานว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่านมาตามเส้นทางดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. ได้พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศฐ 8807 กทม.ผ่านมาจึงได้ส่งสัญญาณให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องฝ่าด่านไป เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสกัดกั้น จนกระทั่งถึงถนนสายบ้านป่าสักน้อย-บ้านป่าถ่อน ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวเสียหลักลงข้างทาง แต่คนขับได้อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากตรวจสอบภายในรถพบยาบ้าของกล่าวซุกซ่อนไว้ในกระสอบซุกซ่อนอยู่ภายในรถจำนวน 11 กระสอบ
พล.ต.ถนัดพลกล่าวว่า ยาเสพติดล็อตนี้คาดว่าเป็นของหลายกลุ่ม สังเกตจากหีบห่อที่มีตราสัญลักษณ์ที่พบในครั้งนี้ซึ่งมีทั้ง 999 เป็นของกลุ่มมูเซอ ส่วน Y1 เป็นของกลุ่มว้า รวมไปถึงไอซ์ที่บรรจุในถุงชาด้วย โดยอาศัยช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อทดลองเส้นทาง แต่ทางเจ้าหน้าที่แม้จะเปลี่ยนกำลังแต่ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ชุดเดิมร่วมปฏิบัติทำให้สามารถสกัดได้ ซึ่งต่อไปขบวนการค้ายาน่าจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้น การลำเลียงในพื้นที่ทางราบยังเป็นช่องทางที่สะดวก ทำให้กลุ่มขบวนการยังคงใช้วิธีลำเลียงยาเสพติดนี้เพื่อส่งต่อไปจำหน่ายยังพื้นที่ชั้นใน
พล.ต.ท.ประจวบกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามขยายผลเพื่อติดตามกลุ่มขบวนการกลุ่มนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาของภาคเหนือคือ การลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 5 จะทำการบังคับใช้กฎหมาย การสกัดกั้นจุดตรวจด่านตรวจการขยายผลต่างๆ แม้ปีที่ผ่านมามีจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก แต่ฐานการผลิตก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง ปีนี้จึงเพิ่มความเข้มข้นในการปิดล้อมตรวจค้นโดยเฉพาะพื้นที่แนวชายแดน และกวาดล้างแหล่งพักยา ซึ่งจะมีการขยายผลในทุกคดีที่มีการจับกุมได้เช่นกรณีครั้งนี้ นอกจากนี้ยังต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินควบคู่กันไปหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องจะใช้มาตรการยึดทรัพย์ รวมทั้งเพิ่มการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนพัวพันในเรื่องของยาเสพติดด้วย
