เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม นายสบทนา อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ผอ.ททท.) สำนักงานพิษณุโลก เปิดเผยถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของจ.เพชรบูรณ์ช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมทั้งที่เขาค้อและภูทับเบิกเป็นไปตามคาด เพราะเป็นช่วงหยุดยาวและมีทะเลหมอกออกมาให้ชมกัน นอกจากนี้ยังมีมาตรการชิมช้อปใช้รองรับ จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์นักท่องเที่ยวแห่ไปเที่ยวและพักค้างแรมกันเป็นจำนวนมาก กระทำให้เกิดเหตุการณ์รถติดหนักบริเวณแหล่งท่องเที่ยวทั้งสองแห่ง ซึ่งในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาตนก็อยู่ที่เขาค้อและยังได้รับประสบการณ์ตรงกับเรื่องสภาพรถติดหนักด้วย อย่างไก็ตามในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวโดยสรุปน่าพอใจ แต่เรื่องการบริหารจัดการก็อยากให้ดีกว่านี้
“ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาผมได้เห็นปัญหารถติดมาตลอด อาทิ ที่วัดผาซ่อนแก้ว ทุ่งกังหันลม จุดชมวิว รวมทั้งที่ภูทับเบิก บางจุดค่อนข้างอันตราย เนื่องจากสภาพรถติดสะสมและอยู่บนเนินสูง ทำให้รถต้องจอดค้างจะลงก็ลงไม่ได้ ในขณะที่เขาค้อผมเคยพูดคุยกับทางผู้ประกอบการรีสอร์ตต่างๆ ให้พยายามจัดรถรับส่งนักท่องเที่ยวแทนการขับรถไปกันเองทำนองนี้ ซึ่งทางพื้นที่ก็พยายามจัดการมาหลายครั้ง แต่วันนี้คิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขตรงนี้ให้ได้ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่านี้ ทั้งที่จริงๆแล้วปริมาณอาจไม่มากจนรับมือไม่ไหว เชื่อว่าหากบริหารจัดการได้ดีกว่านี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาพึงพอใจและยังเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นอีก”นายสบทนากล่าว
นายสบทนากล่าวอีกว่า เชื่อว่าหากมีแผนบริหารจัดการที่ดีทั้งทางส่วนราชการและท้องถิ่นรวมทั้งผู้ประกอบการจับมือช่วยกัน เพราะหากยังปล่อยให้เกิดภาพรถติดหนักไปปรากฎทางสื่อต่างๆกันแบบนี้ ต่อไปเขาค้อ-ภูทับเบิกอาจจะเสียโอกาส โดยในอนาคตตลาดท่องเที่ยวที่นี่อาจจะกลายตลาดล่างไปก็ได้ ส่วนการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวกรณีที่ภูทับเบิก วันนี้น่าจะถึงขั้นนั้นแล้ว เพียงแต่ในมุมมองก็ผู้ประกอบการเองอาจเป็นตรงกันข้าม แต่ทางฝั่งของททท.มองว่า ความพึงพอใจของลูกค้าในระยะยาว ลูกค้าไม่ได้มาอยากมาลูกค้าที่มาแล้วอยากกลับมาอีก การจัดโซนกลุ่มนักท่องเที่ยวก็เป็นแนวทางที่ดี ส่วนปัญหาเรื่องขยะก็เป็นอีกเรื่องที่น่าห่วงใยซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่ามีบริหารจัดการกันแบบไหน
