เมื่อสายวันจันทร์ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกาคนใหม่ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ พบปะกับตัวแทนสื่อค่ายต่างๆ และนักข่าวสายศาลยุติธรรม
สื่อต่างๆ ไปกันเต็มห้องรับรอง อาจเพราะไม่บ่อยนักที่ประธานศาลฎีกาจะออกมาพบกับสื่อ
ประธานศาลฎีกา มีเวลาไม่มาก แต่ได้ใช้เวลาเท่าที่มี ชี้แจงและสนทนากันอย่างเต็มที่
นักข่าวศาล ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวี และออนไลน์ สะท้อนปัญหาการทำงานภายใต้กรอบระเบียบต่างๆ ในบริเวณศาลหลายเรื่อง
ปกติ นักข่าว คนทำงานข่าวกับความรวดเร็ว การได้เข้าถึงข้อเท็จจริงเป็นของคู่กัน ขณะที่ศาลต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังอย่างสูงเป็นปกติ
ความปกติของงานที่ต่างกัน บางครั้งจึงกลายเป็นปัญหาขึ้นมาเหมือนกัน
ขณะที่ตัวแทนสื่อ สอบถามปัญหาคดีความที่สื่อต่างๆ ต้องเกี่ยวข้องเป็นประจำ
เรื่องราวที่สะท้อนไป ทางผู้บริหารศาล รับฟังด้วยความสนใจ และรับปากจะไปพิจารณาแก้ปัญหา เท่าที่ทราบล่าสุด มีการผ่อนคลายในบางเรื่องแล้ว
ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบันเข้ารับหน้าที่ต้นเดือน ต.ค.และจะอยู่ในตำแหน่ง 1 ปี
แต่ฟังดู ก็จะใช้เวลา 1 ปี แก้ไขปัญหา และเริ่มนโยบายใหม่ๆ เท่าที่จะทำได้ แล้วส่งต่อให้รุ่นต่อไปสานต่อ
การเข้ารับตำแหน่งของประธานศาลสูง เป็นจังหวะใกล้เคียงกับข่าวคราวของวงการศาลหลายเรื่องด้วยกัน
บางเรื่องยุติไป บางเรื่องยังต้องสะสางกันต่อ ที่ยังรอดูความคืบหน้ากันอยู่ ได้แก่ กรณีผู้พิพากษาที่ จ.ยะลา
เรียกว่ามีภาระทั้งเก่าและใหม่ต้องจัดการ หนักหนาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ปมสำคัญ ก็คือ การที่ประธานศาลฎีกาปัจจุบัน ได้กล่าวถึงการคุ้มครองสิทธิของประชาชนไว้หลายวาระโอกาส และแสดงท่าทีเปิดกว้างให้บุคคลภายนอก เข้ามาเสนอแนะ แสดงความคิดเห็นต่อการทำงานของศาล โดยออกแบบสอบถาม และทราบว่า มีความเห็นเข้ามาพอสมควร
ที่ผ่านมา ฝ่ายตุลาการ จะทำงานเงียบๆ ต่างจากอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร ที่เป็นข่าวในสื่อตลอดเวลา
ตุลาการพบปะประชาชนทุกเมื่อเชื่อวันก็จริง แต่อยู่บนบัลลังก์ ทำหน้าที่ตัดสินข้อพิพาท คดีความ ต้องวางตัวตามบทบาทหน้าที่
การเปิดช่องทางสื่อสารกับประชาชน จึงเป็นเรื่องใหม่ หากทำต่อเนื่อง เชื่อมโยงความเห็นจากสังคมบ่อยๆ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ
เรื่องหนึ่งที่นายไสลเกษกล่าวถึงในวันนั้น ได้แก่ ดำริที่จะให้พิจารณาประกันตัวในวันเสาร์อาทิตย์ ดังเป็นข่าวในสื่อต่างๆ มีเสียงตอบรับดี
จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยังต้องพูดคุย ปรับการปฏิบัติ งบประมาณ ให้ลงตัวก่อน
ในโลกยุคใหม่ การปรับตัวเป็นกระแสใหญ่ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ หลายฝ่ายกระทำอยู่ เช่นเดียวกับที่ศาลดำเนินการ
เป็นทิศทางที่สังคมภายนอกอยากเห็น และรอดูผลที่จะเกิดขึ้น
วรศักดิ์ ประยูรศุข
