“ซูเปอร์โพล” ชี้คนส่วนใหญ่ แม้แต่เด็กต่ำกว่า 20 ปี เฉยๆถ้า “อนาคตใหม่” ถูกยุบ ระบุผิดหวังการเมืองหลังเลือกตั้ง

วันที่ 27 ตุลาคม ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง “คนคิดอย่างไรถ้าอนาคตใหม่ถูกยุบ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,097 ตัวอย่าง ซึ่งดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 21-26 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งเพศและช่วงอายุส่วนใหญ่ รู้สึกเฉยๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ

โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.4 รู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ขณะที่ร้อยละ 10.5 ระบุมีผลดี และร้อยละ12.1 ระบุว่ามีผลเสีย และเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.0 ของเพศชาย และร้อยละ 79.8 ของเพศหญิง รู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ที่น่าสนใจคือ แม้ในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.8 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงเป็นอันดับสองรองจากคนช่วงอายุ 40 –49 ปี ร้อยละ 83.1 ที่รู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ

อย่างไรก็ตาม คนที่อายุสูงขึ้นมีสัดส่วนของคนที่เห็นว่าจะมีผลเสียลดลง คือ คนอายุ30 –39 ปี ร้อยละ 11.5 คนอายุ40 –49 ปี ร้อยละ 7.1 และคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 5.2 ที่ระบุจะมีผลเสียถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.9 ระบุสิ่งที่คนไทยควรได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมคือ ทัศนคติที่ดี รองลงมาคือร้อยละ 54.4 ระบุการศึกษาที่ดี ร้อยละ 50.3 ระบุเป็นพลเมืองที่ดี ร้อยละ 36.9 ระบุมีงานทำที่ดี และร้อยละ 21.8 ระบุ อื่น ๆ เช่น วินัย ค่านิยม 12 ประการ จิตสำนึก และความเท่าเทียม เป็นต้น

Advertisement

ดร.นพดล กล่าวต่อว่า จากการสัมภาษณ์เจาะลึกเชิงคุณภาพต่อกรณีประชาชนรู้สึกเฉยๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พบว่า พรรคไหนถูกยุบตอนนี้จะรู้สึกเฉย ๆ เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตความเป็นอยู่และความเดือดร้อนที่กำลังเจอ นักการเมืองก็เหมือน ๆ กัน แย่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ต้องการให้นักการเมืองเร่งแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนที่เงินกำลังขาดมือ ทำมาหากินขัดสน ถ้าพรรคไหนทำงานดีช่วยเหลือประชาชนไม่ซ้ำเติมแต่มาถูกยุบก็จะทำให้ประชาชนทุกข์หนักและเกิดผลเสียมากกว่า ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ให้เกิดเพราะรู้สึกผิดหวังกับการเมืองที่คิดว่าหลังเลือกตั้งจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image