รองประธานหอการค้าพิจิตร ย้อนถาม”บิ๊กตู่” มองสหรัฐฯเพื่อนที่ดี แต่”ทรัมป์”ไม่เห็นไทยในสายตา

วันที่ 27 ตุลาคม นายตระการ คุณาวุฒิ รองประธานหอการค้าจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ( ยูเอสทีอาร์ ) ประกาศว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศระงับการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ จีเอสพี กับสินค้าไทย 573 รายการ คิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 39,650 ล้านบาท โดยระบุว่าไทยล้มเหลวในการจัดสิทธิที่เหมาะสมให้กับแรงงานตามหลักสากลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลไทยที่ต้องหาทางช่วยเหลือผู้ส่งออก

นายตระการ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลต้องออกมาพิสูจน์ว่าผลงานที่ผ่านมา ตั้งแต่เป็นรัฐบาลช่วงแรกเมื่อ 5 ปี และปีนี้เป็นที่ 6 มีผลงานอะไรบ้าง การที่สหรัฐฯประกาศตัดจีเอสพีสินค้าไทยในครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลนี้ อย่าไปโทษใคร ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการขณะนี้คือ หาทางขยายตลาดเพิ่มขึ้น ทำอย่างไรให้สินค้าไทย 573 รายการสามารถส่งออกไปประเทศอื่นได้ เพื่อชดเชยที่ถูกสหรัฐฯตัดสิทธิจีเอสพี

“ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกา แล้วออกมาพูดว่าสหรัฐฯ เป็นมิตรที่ดี เป็นเพื่อนที่ดีต่อตัน โดยเฉพาะประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ตอนนี้ผมมองว่าประธานาธิบดีทรัมป์คงไม่เห็นประเทศไทยอยู่ในสายตา โดยเฉพาะรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เขาปกป้องผลประโยชน์ของเขา แต่รัฐบาลไทยปกป้องผลประโยชน์ในประเทศไทยไม่ได้ หรือมองได้ว่าไม่มีฝีมือ”

กรณีที่มีการวิเคราะห์โยงประเด็นที่สหรัฐฯระงับใช้จีเอสพีกับสินค้าไทยนั้นมีสาเหตุจากที่รัฐบาลไทยแบน 3 สารเคมี ซึ่งสหรัฐฯเคยแสดงท่าทีคัดค้านการแบนดังกล่าวนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเกี่ยว เพราะสารเคมีอันตรายส่วนใหญ่ที่ไทยน้ำเข้ามาจากประเทศจีน คิดเป็น 80-90% การที่สหรัฐฯสั่งระงับสิทธิจีเอสพีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการเมืองไทย หรือเกิดจากไม่พอใจรัฐบาลมากกว่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image