สมอ.เตือนปล่อยโคมลอยช่วงเทศกาลลอยกระทงระวังอุบัติเหตุไฟไหม้

สมอ.เตือนปล่อยโคมลอยช่วงเทศกาลลอยกระทงระวังอุบัติเหตุไฟไหม้

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรฐานโคมลอยว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทงประชาชนนิยมจุดโคมลอยปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และปัจจุบันการจุดโคมลอยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจังหวัดต่างๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยไม่จำกัดเฉพาะเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น โคมลอยที่ผลิตกันโดยทั่วไปมีการผลิตโดยใช้ลวดโลหะขนาดใหญ่ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า มีการใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมากเกินความจำเป็น เพื่อให้
โคมลอยขึ้นสูงเป็นเวลานาน เมื่อโคมลอยตกลงมาหากไปติดค้างสายไฟฟ้าแรงสูง จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ขณะเดียวกันการลอยขึ้นสูงเกินไปจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่ออากาศยาน โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวที่มีการขึ้นลงของอากาศยาน รวมทั้งเชื้อเพลิงที่ยังลุกไหม้เมื่อโคมตกลงสู่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ จึงขอเตือนประชาชนให้ตระหนักในเรื่องดังกล่าว ขอให้เลือกซื้อโคมลอยที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

นายวันชัยกล่าวว่า โคมลอยที่ได้มาตรฐาน คือ โคมลอยที่ใช้วัสดุและเชื้อเพลิงจากธรรมชาติ มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง หากต้องใช้ลวดโลหะสำหรับผูกติดเชื้อเพลิงให้ใช้ลวดอ่อนที่มีความยาวไม่เกิน 30 เซนติเมตรต่อเส้น และต้องพิมพ์คำเตือนในฉลากด้วยข้อความว่า “ห้ามพ่วงหรือผูกติดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือสิ่งอื่นใดไปกับโคมขณะปล่อย” “ห้ามใช้เชื้อเพลิงที่มี ขนาดไม่เหมาะสมกับตัวโคม เพราะอาจเกิดอันตรายได้” นอกจากนี้ ยังได้กำหนดปริมาณเชื้อเพลิงของโคมลอยไว้ไม่เกิน 55 กรัม ใช้เวลาการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที ซึ่งเหมาะสมกับระยะเวลาที่โคมลอยอยู่ในอากาศ จึงทำให้ปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้มีการกำหนดปริมาณให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่โคมลอยอยู่ในอากาศ ไม่เหลือการลุกไหม้ตกค้างลงสู่พื้นดิน อีกทั้งไม่ลอยสูงเกินไปจนอาจทำให้เกิดปัญหาต่อการบินของอากาศยานต่างๆ ได้ ตลอดจนโลหะ (ลวดอ่อน) ที่ใช้ยึดตัวโคมได้มีการกำหนด ขนาดให้เล็กและสั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากรณีตกลงมาติดค้างสายไฟฟ้าแรงสูง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image