ปตท.สผ.ประกาศแผนธุรกิจ5ปี ชูลงทุนใหม่ใน5ประเทศ เพิ่มยอดผลิตเท่าตัว(ชมคลิป)

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  หรือ ปตท.สผ. บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ใน 15 ประเทศทั่วโลก เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ยังเห็นโอกาสการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และแนวโน้มราคาน้ำมันโลกจะเริ่มขยับสูงขึ่นหลังปี 2564 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและหลายประเทศลดกำลังการผลิตหันใช้พลังงานด้านอื่นมากขึ้น ซึ่งประเมินว่าราคาน้ำมันโลกจะทรงตัวระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลช่วงปี 2563-64  จากนั้นจะขยับเกิน 70 เหรียญสหรัฐ รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งลดลง ทำให้ปตท.สผ. เตรียมการลงทุนต่อเนื่องเน้นสำรวจแหล่งผลิตใหม่มากขึ้น และชะลอการซื้อกิจการ โดยตั้งเป้า5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มกำลังการผลิตเท่าตัว หรือขยายตัว 5-7%ต่อปี นับจากปี 2563-67 จากปี​ 2562​ ตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย​ 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เป็น 6-7 แสนบาร์เรล โดย 70% กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติ และ 30% กำลังผลิตน้ำมัน/คอนเดนเสตและอื่นๆ

“แม้ตอนนี้จะมีนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทน ทั้งจากแสงแดด น้ำ ลม ไฟฟ้า แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องแรงวัตถุดิบและความเสถียร แต่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก็ยังเป็นพลังงานที่มีความต้องการทั้งภาคอุตสาหกรรมและการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งพลังงานปิโตรเลียมก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้กำลังการผลิตยังมีโอกาสโตได้ปีละ 5-7% ต่อเนื่อง 5 ปีถึงปี 2567 จากนั้นปริมาณผลิตจะโตปีละ 1-2% เพราะฐานผลิตสูงขึ้นมากใกล้เคียงความต้องการ สอดรับกับพลังงานอื่นมีการพัฒนาใช้งานได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน “ นายพงศธร กล่าว

นายพงศธร  กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีจะเน้นการลงทุนและสร้างรายได้หลักใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เมียนมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน โดยประมาณการลงทุนอีก 17,000-20,000 ล้านเหรียญสหรัฐช่วงปี 2562-67ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้เริ่มลงทุนในประเทศดังกล่าวแล้ว อาทิ การลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิต แปลง แปลง G1/61 และแปลง G2/61(กำแพงเพชร) ซื้อกิจการของเมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในมาเลเซีย  ชนะการประมูลสิทธิการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2 แปลง นอกชายฝั่งเพนนินซูลามาเลเซีย เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมจากบริษัท Coastal Energy Company (Khorat) บริษัท Tatex Thailand LLC และ Tatex Thailand II LLC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการสินภูฮ่อม (ขอนแก่น)   มองหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจในส่วนของ Gas Value Chain ในเมียนมา

พร้อมกับหาโอกาสลงทุนในพื้นที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ ได้รับสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง 2 แปลง (แปลงออฟชอร์ 1 และแปลงออฟชอร์ 2) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการเปิดประมูลครั้งแรกในประเทศ โดยมีโอกาสร่วมทุนกับบริษัทน้ำมันระดับโลก ทั้ง ADNOC และ ENI ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาทางธรณีวิทยาและประเมินศักยภาพปิโตรเลียมเพื่อวางแผนสำรวจ เข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง บี.วี. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยลงทุนในโครงการพีดีโอ (บล็อค 6)เป็นโครงการผลิตน้ำมันบนบกขนาดใหญ่สุดในโอมานนอกจากนี้ยังมีโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศอื่นๆด้วย

Advertisement

นายพงศธร  กล่าวว่า อีกกลยุทธ์สร้างความยั่งยืน คือลงทุนในธุรกิจใหม่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี และความสามารถด้านงานวิจัยพัฒนาขององค์กรที่ส่งเสริมธุรกิจปัจจุบัน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน โดยตั้งบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการผลิต สร้างความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมถึงรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเข้าประมูลเพื่อดำเนินการโครงการบงกชและเอราวัณ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการและจะเป็นรายได้หลักในอนาคต

ส่วนความคืบหน้าแหล่ง Cash Maple ที่ออสเตรเลีย และโครงการแหล่งมาเรียนา ออยล์ แซนด์ที่แคนาดา อยู่กำลังทบทวนแนวทางดำเนินการว่าจะดำเนินการต่อหรือขาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image