กรมชลฯจับมือกปภ.แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปาเมืองโคราช

กรมชลประทาน จับมือการประปาส่วนภูมิภาค และเทศบาลนครนครราชสีมา หารือแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา หลังปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย เหตุจากฝนที่ตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่ปริมาณฝนสะสมปี 2562 ในเขตจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นฤดูฝนในเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนสะสมเพียง 546 มิลลิเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1,074 มิลลิเมตร หรือร้อยละ 49 ของค่าเฉลี่ย ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ในเขตจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 27 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกันเพียงร้อยละ 37 ของความจุอ่างฯรวมกัน รวมทั้งแหล่งกักเก็บน้ำและแหล่งน้ำดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตประปา มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในการผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยงชาวโคราชทั้งจังหวัด กรมชลประทาน โดยนายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ได้จัดประชุมหารือร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค และการประปาเทศบาลนครนครราชสีมาและโครงการชลประทานในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนและระยะยาว พร้อมกันนี้ ยังได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาทั้ง 10 สาขาในเขตจังหวัดนครราชสีมา พบว่าสาขาที่ปริมาณน้ำเพียงพอสามารถผลิตประปาได้ถึงเดือนกรกฎาคม 2563 มีทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ สาขาปากช่อง สาขาสีคิ้ว สาขาปักธงชัย สาขาครบุรี และสาขาชุมพวง ส่วนสาขาที่หน่วยผลิตบางหน่วยไม่สามารถให้บริการจนถึงเดือนกรกฎาคมได้ แต่ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ มีจำนวน 4 สาขา ได้แก่ สาขาโชคชัย แก้ปัญหาโดยใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง, สาขานครราชสีมา แก้ปัญหาโดยทำความตกลงกับเทศบาลนครนครราชสีมา ขอซื้อน้ำดีไปจำหน่าย, สาขาโนนสูง แก้ปัญหาโดยดำเนินการต่อท่อจากท่อสูบน้ำดิบของเทศบาลนครนครราชสีมา ที่สูบน้ำจากเขื่อนลำแชะมาใช้ และสาขาพิมายหน่วยบริการเมืองคง แก้ไขด้วยการใช้น้ำจากห้วยยางพะไลมาใช้ เป็นต้น

สำหรับสาขาที่วิกฤต 1 สาขา ได้แก่ สาขาด่านขุนทด ที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ในการผลิตประปาประมาณวันละ 2,000 ลบ.ม. ปัจจุบันไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับผลิตประปา จึงพิจารณาให้การประปาใช้น้ำจากสระโนนสะเดา ซึ่งมีปริมาณน้ำประมาณ 140,000 ลบ.ม. พร้อมขอสนับสนุนน้ำจากอ่างเก็บน้ำบึงถนนหัก อีกจำนวน 400,000 ลบ.ม. สูบมาเก็บไว้ในที่สระโนนสะเดารวมปริมาณน้ำทั้งสิ้นประมาณ 540,000 ลบ.ม. ซึ่งจะสามารถใช้ผลิตประปาได้อีกประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะต้องเดินท่อจากประปาสาขาสีคิ้วมายัง อ.ด่านขุนทด คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 63 เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้ไปจนถึงหน้าแล้งปีหน้า

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมใจกันรณรงค์ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า อีกทั้ง เป็นการลดความเสี่ยงปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

Advertisement

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image