เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่บริเวณวัดบ้านโนนจิก ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง จ.ส.ต.สุทธิพงษ์ คณะนา หรือจ่าตี๋ อายุ 62 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และนางสังวาลย์ คณะนา อายุ 62 ปี ภรรยา ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 19 ใบ โดยแบ่งให้เพื่อน 1 ใบ รับเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 120 ล้าน งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าจ่าตี๋บนบานขอพรจากเจ้าแม่ตะเคียนหิน ซึ่งตั้งอยู่ในภายในวัดบ้านโนนจิกแห่งนี้ ว่าขอให้ถูกรางวัลที่ 1 ปรากฏว่าในวันนี้ ซึ่งเป็นวันใกล้วันหวยออก มีชาวบ้านจำนวนมากพากันนำเอาดอกไม้ธูปเทียนเพื่อมากราบไหว้ ขอโชคลาภเลขเด็ดจากเจ้าแม่ตะเคียนหินกันไม่ขาดสาย ทำให้บรรยากาศคึกคัก ขณะเดียวกันที่ขาดไม่ได้คือผู้ส่งเสริมให้คนมีโชคร่ำรวย คือพ่อค้าแม่ค้าขายล็อตเตอรี่ ได้พากันนำเอาแผงลอตเตอรี่มาตั้งวางขายยาวเหยียดตาม 2 ข้างทาง ที่มุ่งหน้าไปยังวัดบ้านโนนจิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่ตะเคียนหิน ซึ่งชาวบ้านที่พากันมาขอเลขเด็ด ต่างพากันปิดเงียบเกี่ยวกับตัวเลข เนื่องจากเชื่อว่าอยู่ที่โชควาสนาของแต่ละคน ที่จะพบเห็นเลขเด็ดที่เจ้าแม่ตะเคียนหินให้ออกมา
นายอ่อนศรี สืบวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านโนนจิก และชาวบ้านทั่วไป ต่างมีความเชื่อกันว่าเจ้าแม่ตะเคียนหิน จะให้โชคลาภต่างๆ ตามที่มีผู้ขอบนบานเอาไว้ ซึ่งนอกจากเรื่องการขอโชคลาภแล้ว ยังมีเรื่องต่างๆ ที่ชาวบ้านพากันมาบนบานเอาไว้ โดยตนได้มาบนบานกับเจ้าแม่ตะเคียนหินว่า ขอให้ลูกชายของตนหายป่วยจากอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เนื่องจากว่า ไปแพทย์ตรวจเอกซเรย์แล้วหลายรอบ แต่ว่าไม่พบสาเหตุอะไร ทำให้รักษาไม่หายมานานแล้ว
“ผมได้มาขอพรจากเจ้าแม่ตะเคียนหิน และต่อมาได้นำลูกชายไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แพทย์ได้ตรวจพบสาเหตุอาการเจ็บป่วย และสามารถรักษาหายขาดได้ เรื่องเหล่านี้ ผมเห็นว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ชาวบ้านจึงได้พากันตั้งศาลเล็กๆ ให้บริเวณด้านทิศตะวันตก ใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ภายในวัดดังกล่าวขึ้น จนมีคนถูกหวยรวยเป็นเศรษฐีดังกล่าว” นายอ่อนศรี กล่าว
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังมีข่าวโด่งดังที่เจ้าแม่ตะเคียนหินให้โชค และมีความศักดิ์สิทธิ์ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่เดินทางมาเที่ยวชม และกราบไหว้ขอพรตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ส่งผลทำให้มีรถวิ่งเข้าออกตลอดทั้งวัน ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้มากขึ้น จากการจำหน่ายสินค้าโอท็อป อาหาร และน้ำดื่ม รวมถึง เครื่องเซ่นไหว้บูชา ทั้งผ้าเจ็ดสี พวงมาลัย เป็นต้น ซึ่งตนได้ประสานผู้นำชุมชนให้ช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว เริ่มทยอยเดินทางมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง คือการไหว้พระทำบุญ ไม่อยากให้หลงงมงายจนเกินไป เชื่อว่าถ้าทุกคน คิดดี ทำดี ชีวิตก็จะมีสุข มีโชคมีชัยอย่างแน่นอน
