รองโฆษก ตร.เผยสันนิษฐานเด็ก 13 โดดตึกเกิดจากเครียดทะเลาะกับแม่หลายครั้ง

รองโฆษก ตร.เผยสันนิษฐานเด็ก 13 โดดตึกเกิดจากเครียดทะเลาะกับแม่หลายครั้ง แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง เผยรวบแฟนหนุ่มอายุ24 ที่ถูกกล่าวหากระทำชำเราดำเนิน คดีครอบครองเครื่องกระสุน

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเศร้าสลด ด.ญ.วัย 13 ปี ตัดสินใจกระโดดตึกเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเกิดจากความเครียด   ว่า ได้รับรายงานจาก สน.หัวหมาก หลังจากเกิดเหตุเด็กหญิงวัย13ปี กระโดดตึกเป็นเหตุให้เสียชีวิต พนักงานสอบสวน แพทย์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุและทำการชันสูตรพลิกศพ พร้อมส่งศพไปทำการชันสูตรโดยละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.ตร.เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนจะส่งมอบศพให้ญาติไปดำเนินการตามศาสนา และทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี โดยข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากความเครียดของผู้ตาย ซึ่งมักจะมีการทะเลาะกับมารดาอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาจึงตัดสินใจกระโดดจากตึกเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป จะทำการสืบสวนสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อทำความจริงให้ปรากฎและคลายข้อสงสัยในประเด็นต่างๆให้กับญาติผู้ตายและสังคม

อีกทั้งในส่วนของกรณีที่มารดาของผู้ตายได้ไปแจ้งความกรณีถูกแฟนหนุ่มของผู้ตายการกระทำชำเรา ในพื้นที่ สน.คลองตัน นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลทำการค้นห้องพักของชายหนุ่ยวัย 24 ปี ซึ่งเป็นแฟนของผู้ตาย โดยผลการตรวจค้นพบเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงได้นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล รอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกี่ยวข้องว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายในฐานความผิดอื่นอีกหรือไม่ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐายที่เกี่ยวข้อง รอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ และยังไม่ได้ตัดประเด็นใดในทางคดีทิ้งไป

Advertisement

คงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลตรวจชันสูตรจากแพทย์ การสอบปากคำพยาน โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการด้วยความรอบครอบ โปร่งใส เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานของการกระทำความผิดอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในต้นธารของกระบวนการยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image