ชาวนาโอด หลังพ่อค้ารับซื้อข้าวราคาต่ำ ชี้แม้รัฐประกันราคาส่วนต่าง แต่ยังไม่ได้ทุนคืน
ตามที่รัฐบาลประกันราคาข้าวให้กับเกษตรกร นั้น โดยข้าวหอมมะลิ ประกันราคาข้าว กำหนดไว้ ตันละ 15,000บาท ได้ส่วนต่างครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ประกันราคาที่ 14,000 บาทต่อตัน ได้ส่วนต่างครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเจ้าหรือข้าว กข ประกันราคาที่ 10,000 บาทต่อตัน ได้ส่วนต่างครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตันข้าวเปลือกหอมปทุม ประกันราคาที่ 11,000 บาทต่อตัน ได้ส่วนต่างครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ประกันราคาที่ 12,000 บาทต่อตัน ได้ส่วนต่างครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตันนั้น
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางเข้าพื้นที่ อ.โคกสูง อ.วัฒนานคร อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และสอบถาม เกี่ยวกับการขายข้าวเปลือก ทราบว่าโรงสีหรือพ่อค้ารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ราคาค่อนข้างต่ำมาก โดยรับซื้อในราคา ถังละ 80-82 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิ รับซื้อที่ถังละ 105 -110 บาท เท่านั้น และมีเกษตรกรชาวนาหลายราย นำข้าวไปขาย ให้กับพ่อค้า แต่ไม่ยอมรับซื้อ สร้างความเศร้าให้กับชาวนาอย่างยิ่ง แถมติโน่นตินี่ และไม่ยอมรับซื้อ อ้างว่าความชื้นต่ำ สิ่งเจือปนเยอะบ้าง
ในช่วงนี้ชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยวข้าว จากนั้นจะนำไปตากแดดกว่า 3 วัน เพื่อลดความชื้น จากนั้นชาวนาจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้กินเอง ส่วนหนึ่งจะขายเพื่อนำเงินมาใช้สอยในชีวิตประจำวัน และหลายรายต้องนำเงินไปชำระหนี้ บางรายต้องขายข้าวเปลือกทั้งหมดเพื่อนำไปใช้หนี้ แต่ก็ยังไม่พอใช้หนี้อีก เนื่องจากผลผลิตที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเกิดจากภัยธรรมชาติ เกษตรกรชาวนา ส่วนใหญ่จะขึ้นทะเบียนเกษตรกร และมีส่วนน้อยที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน เช่น ผู้ที่มีพื้นที่ปลูกข้าว 1- 5 ไร่ และปลูกข้าวไว้กินเองเท่านั้น
นายทวี ศรีอ้วน เกษตรกรชาวนา ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กล่าวว่า ขณะนี้พ่อค้ารับซื้อข้าวเปลือก ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิ รับซื้อที่ ถังละ 105 -110 บาท ข้าวกข.จะตีเป็นข้าวรวม ซื้อถังละ 80 -82 บาท ถึงแม้เกษตรกรจะขึ้นทะเบียนแล้ว แต่รัฐจะจ่ายค่าส่วนต่างหรือไม่ เกษตรกรต้องรอต่อไป ในขณะที่รัฐจ่ายค่าส่วนต่างให้กับเกษตรกรโดยมีเงื่อนไข เช่น ข้าวเจ้า กข.ประกันราคาที่ 10,000 บาทต่อตัน จ่ายค่าส่วนต่าง ไม่เกิน 30 ตัน ซึ่งขณะนี้พ่อค้ารับซื้อ ตันละ 8,000 -8,200 บาท จะได้ส่วนต่างไม่เกิน 30 ตัน จำนวนเงิน 54,000 – 60,000 บาท หากคิดค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าจ้างแล้ว เกษตรกร ก็ยังขาดทุนอยู่ดี แต่ก็ยังดี ที่รัฐยังให้การช่วยเหลือบ้าง
