เวลา 16.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เพจเฟซบุ๊กปทุมธานีที่นี่มีแต่เรื่องได้แชร์คลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นชายวัยรุ่น 2 คน พร้อมอาวุธไม้รุมทำร้ายร่างกาย รปภ.พร้อม โพสต์ข้อความว่าใครทำลุง รปภ.ในมธ.เขาเตือนตามหน้าที่ จากการตรวจสอบทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณประตูเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถนนเชียงราก-บางขัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงหาข้อมูลและลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยนายสุชาติ สุดสระ อายุ 54 ปี รปภ.ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในการรวมรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรีในการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ
นายสุชาติ สุดสระ รปภ.มธ.ศูนย์รังสิต กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเวลา 18.00 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่บริเวณประตูเชียงราก1ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ขณะตนเองปฏิบัติหน้าที่ รปภ.มีการกล่าวตักเตือนผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่เข้าออกในภายมหาวิทยาลัยว่า ในมหาวิทยาลัยมีมาตราการรณรงค์ความปลอดภัย100เปอร์เซ็นต์โดยให้ผู้ที่ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จะต้องสวมหมวกนิรภัยทุกคน ซึ่งคาดว่าคงสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง และทั้งสองคนที่เป็นผู้เข้ามาทำร้ายตนเองนั้นขับวินอยู่บริเวณหน้าประตูเชียงราก ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ว่ากล่าวตักเตือนไปหลายครั้งเพราะผู้ขับขี่ทั้งสองคนไม่สวมหมวกนิรภัยในการขับขี่ คาดว่าคงจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์แต่มันเป็นหน้าที่ของตนที่ตนเองต้องปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติก็จะโดนเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยในวันเกิดเหตุตนเองได้ตักเตือนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างไปก่อนที่ทั้งสองคนจะขับรถออกไปจอดด้านนอกรั้วหมาวิทยาลัยแล้วเดินเข้ามาพร้อมด้วยท่อนไม้ก่อนจะเข้าผลักตนเองและทำร้ายตนเองด้วยการเตะต่อยทุบตีด้วยไม้ ก่อนที่จะมีรปภ.และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมาช่วยห้ามปรามหลังเกิดเหตุตนเองถูกนำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติพบว่า มีบาดแผลศีรษะแตกเย็บ2เข็ม ปลายคางฝั่งซ้ายช้ำบวม ที่ลำตัวซ้ายฟกช้ำนอนร.พ.1วัน และในวันนี้ก็เดินทางไปพบแพทย์ตามใบนัดอีก
ด้านพ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน กล่าวว่า ตอนนี้ทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครบ้าง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งใบรับรองแพทย์ในการขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีในการออกหมายจับข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ประกบตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนหากศาลอนุมันติหมายจับจะได้เข้าจับกุมตัวได้ทันที
