“สุริยะ”ตอบรับ 7 สมาคมฯเหล็ก หนุนบริโภคในประเทศ สมอ.รุกมาตรฐานป้องผู้บริโภค
น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทยที่มีสมาชิก 472 บริษัท เข้าพบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์เหล็กในปัจจุบันที่ประเทศไทย โดยระบุว่า ภาพรวมของปัญหาหลักเกิดจากสินค้าในประเทศยังถูกสินค้านำเข้าแย่งส่วนแบ่งตลาด ส่งผลต่ออัตราการใช้กำลังการผลิตของไทยที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เห็นได้จากปี 2561 ไทยมีปริมาณการใช้เหล็ก 19.3 ล้านตัน เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศเพียง 7.3 ล้านตัน และมีกำลังการผลิตเพียง 33% ทาง 7 สมาคมฯ จึงขอให้กระทรวงฯสนับสนุนการใช้สินค้าภายในประเทศ ซึ่งนายสุริยะตอบรับและแจ้งว่าขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเดินหน้าแผนการใช้สินค้าในประเทศ(เมด อินไทยแลนด์) อยู่ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0 ร่วมกับผู้ประกอบการ
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า ข้อเสนอแนวทางการใช้สินค้าภายในประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สมอ.ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล และภายใต้กฎระเบียบขององค์การการค้าโลก รวมทั้ง ควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กเป็นพิเศษ ตามนโยบายของนายสุริยะ ล่าสุด สมอ.ประกาศใช้มาตรฐานบังคับกับผลิตภัณฑ์เหล็กแล้ว จำนวน 20 มาตรฐาน และได้เร่งรัดแก้ไขมาตรฐานและกำหนดใหม่เพื่อบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์เหล็กที่ด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ โดยมีมาตรฐานที่อยู่ในขั้นตอนการประกาศบังคับใช้ อีกจำนวน 7 มาตรฐาน อาทิ มอก. 50-2561 เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบแผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก มอก. 528-25xx เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูป และมอก. 1228-25xx เหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูปเย็นสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป
นายวันชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรฐานที่อยู่ระหว่างการแก้ไขและกำหนดใหม่อีก 16 มาตรฐาน ซึ่ง สมอ.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ สามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน และเพื่อป้องกันการนำเข้าเหล็กที่ด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ รวมทั้งเฝ้าจับตาการนำเข้าเหล็กอย่างใกล้ชิด
หากพบมีการนำเข้าในปริมาณมากผิดปกติ จะเข้าทำการตรวจสอบทันที พร้อมเก็บตัวอย่างทดสอบก่อนปล่อยใช้งานทุกครั้งที่นำเข้าเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงกฎหมาย รวมทั้งควบคุมการนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนจากประเทศเวียดนาม โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจ
สอบอย่างเข้มงวดก่อนทุกครั้งที่นำเข้า รวมทั้งเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจสอบ เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเข้าเหล็กดังกล่าวจากประเทศเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
