‘ทีโอที’ทำศูนย์ยูโซ่เน็ตเหลว ส่งมอบได้ 9 แห่งจากทั้งหมด 371 แห่ง ทำค่าปรับพุ่ง 800 ลบ.
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวถึงโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (โซนซี+) ที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ชนะการประมูล ว่า ผลการตรวจรับโครงการฯ ที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ชนะการประมูลประกวดราคา 3 สัญญาวงเงินรวม 6,486,399,926 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่ง กสทช. ได้แจ้งยกเลิกสัญญาไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 พบว่า ทีโอที สามารถส่งมอบศูนย์ยูโซ่เน็ตได้เพียง 9 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 100-200 ล้านบาท จากทั้งหมด 371 แห่ง เนื่องจากกระบวนการสร้างอาคารผิดเงื่อนไขตามที่สัญญากำหนด ทำให้คณะกรรมการตรวจรับงานต้องใช้เวลาในการลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่า แต่ละศูนย์ต้องดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ก่อนจะเปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามาประมูล ส่วนไฟเบอร์ออฟติกที่ผิดสเปค คิดเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท และค่าบำรุงรักษาโครงข่ายนั้น กสทช.จะไม่ตรวจรับ โดยทีโอที ไม่สามารถรื้อสายออกไปได้ เพื่อให้ กสทช. ใช้บริการไฟเบอร์ออฟติกอย่างเดียว ทั้งนี้เพื่อให้การเปิดให้บริการฟรีไวไฟและการนำสัญญาณไปเชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์มือถือของเอกชนรายอื่นสามารถใช้งานได้
“เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จากนี้ กสทช. ต้องดำเนินการแก้สัญญาระหว่าง กสทช. และทีโอที เพื่อไม่ให้มีปัญหาฟ้องร้องกันภายหลังว่า พื้นที่ไหนและอุปกรณ์ส่วนใหนบ้างที่รับได้ เพื่อดำเนินการมอบเงินค่าจ้างให้ทีโอทีต่อไป โดยต้องหักค่าปรับการส่งมอบงานล่าช้าจำนวนกว่า 800 ล้านบาท ออกมาด้วย โดยขณะนี้ กสทช. ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขที่ชัดเจนได้ คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุป เพื่อให้ทุกโครงการสามารถเปิดบริการได้ในเดือนมกราคม 2563” นายฐากรกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการ 3 สัญญา ประกอบด้วย 1.โครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ภาคเหนือ 2 มูลค่าโครงการ 2,103,800,000 บาท 2.โครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลค่าโครงการ 2,492,599,999 บาท ส่วนโครงการที่ 3.โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ มูลค่าโครงการ 1,899,999,927 บาท สามารถส่งมอบงานได้
