ไทยจ่อชิงที่นั่งใน กก.มรดกโลกฉลุย เผยแก่งกระจานเป็นมรดกโลกได้ ไม่ต้องมีใครย้ายออก
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่องค์การการศึกษาการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สำนักงานโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการอนุสัญญามรดกโลกประเทศไทย จัดงาน ไทย ไนท์ (Thai night) เพื่อเชิญชวนตัวแทนจากภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก 193 ประเทศ ให้เลือกประเทศไทยเข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ที่ยังว่างอยู่ 9 ตำแหน่ง โดยประเทศไทยสมัครรับเลือกตั้ง ในฐานะตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตเอกอัคราชฑูตประจำกรุงปารีส เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ซึ่งภายในงานมีการนำอาหารไทย เช่น ส้มตำกุ้งสด ช่อม่วงปลา ปั้นขลิบ หมี่กรอบ ขนมจีบนก สะเต๊ะไก่ เนื้อย่างน้ำจิ้มซอสมะขาม มาเลี้ยง และจัดการแสดง มโนรา รำเซิ้ง มาให้ชม มีตัวแทนภาคีสมาชิกมาร่วมงานประมาณ 100 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน นายสีหศักดิ์ ได้พูดคุย ทักทาย กับตัวแทนภาคีสมาชิกที่มาร่วมงาน และได้ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นกรรมการมรดกโลก โดยประเทศไทยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์การทำงานในฐานะกรรมการมรดกโลกมาแล้วถึง 3 สมัย ก่อนหน้านี้
“การมาพบปะกับภาคีสมาชิกครั้งนี้ นอกเหนือจากการหาเสียงให้ภาคีสมาชิกมั่นใจกับการทำงานกับประเทศไทย หากได้เข้าไปนั่งเป็นกรรมการมรดกโลกแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะได้แสดงบทบาทในเวทีโลก ให้เวทีโลกได้เกิดความมั่นใจว่า รัฐบาลไทยที่มาจากการเลือกตั้งให้ความสำคัญกับการแสดงบทบาทในเวทีโลก และพร้อมจะส่งเสริมการทำงานในเวทีโลก โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารในยูเนสโก ซึ่งตัวแทนจากประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งเข้าไปด้วย แสดงให้เห็นขัดเจนว่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น”นายสีหศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การได้เข้านั่งเป็นกรรมการมรดกโลกจะมีผลดีกับประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องการเสนอให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขึ้นเป็นมรดกโลกในปีต่อไปหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่า การที่ประเทศไทยได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการมรดกโลกนั้น ไม่ใช่เข้าไปเพื่อผลักดันให้สิ่งที่ตัวเองเสนอเข้าไปได้รับการขึ้นทะเบียนเท่านั้น แต่จะต้องทำให้ภาพรวมของการที่ทุกประเทศเสนอพื้นที่ของตัวเองเข้ามา ได้รับการพิจารณาที่เป็นธรรม เกิดความเท่าเทียมและสะดวกกว่า ที่ผ่านมา
นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสผ.กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะถือเป็นสมัยที่ 4 ที่ได้เข้าไปทำงาน ผลดีก็คือ การเข้าไปทำให้กลไกการทำงานที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก สำหรับการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้เกิดความสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเสนอรายละเอียดผ่านเอกสาร ซึ่งมีความซับซ้อนยุ่งยาก จะเปลี่ยนมาเป็นการพูดคุย ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบประเมินมากขึ้น การทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศที่มีงบประมาณไม่มากนัก มีโอกาสในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกเพิ่มมากขึ้นด้วย หลายๆประเทศสนับสนุนแนวคิดแบบนี้ของประเทศไทยมาก
เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานของประเทศไทย ที่รอขึ้นทะเบียนมรดกโลกอยู่นั้น มีโอกาสมากขึ้นใช่ไหม นางรวีวรรณ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับข้อมูล ซึ่งเรื่องหลักๆ เลยสำหรับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตอนนี้ก็คือ การอัพเดทสถานภาพชนิดพันธุ์ ของทั้งพืชและสัตว์และเรื่องขอบเขตพื้นที่ ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ให้คณะกรรมการพิจรณาภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
“เมื่อเดือนที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญจากไอยูซีเอ็น ได้ลงพื้นที่ไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าไปดูแลอำนวยความสะดวก ได้มีการถามถึงเรื่องความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอธิบายว่า การขึ้นทะเบียนมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น ไม่มีผลต่อการย้ายชาวบ้านออก อย่างไรก็ตาม ก็มีคำถามจากผู้เชี่ยวชาญ ไอยูซีเอ็นว่า หากชาวบ้านที่อาศัยอยู่เวลานี้มีการขยายครอบครัวจะทำอย่างไร จะมีการเรียกร้องขอพื้นที่เพิ่มขึ้นหรือไม่” นางรวีวรรณ กล่าว
เลขาธิการสผ.กล่าวว่า ได้เข้าหารือเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในพื้นที่มรดกโลกกับ มาดามลอสเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์มรดกโลก ได้ให้ข้อมูลเรื่องการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า ถึงแม้แก่งกระจานจะได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่ชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่เดิมก็ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้ถูกย้ายออกไปไหน แต่เป็นการอยู่อย่างมีเงื่อนไขตามที่กรมอุทยานแห่งชาติฯกำหนดเอาไว้เท่านั้น
เมื่อถามว่า การดำเนินคดี ฟ้องร้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ถูกกล่าวหาว่า ฆ่านายบิลลี่ แกนำชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ มีผลกับการพิจารณาการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหรือไม่ นางรวีวรรณ กล่าวว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ไปกับคณะกรรมการที่พิจารณาเพื่อเป็นข้อมูลแล้ว
“แต่ทุกประเทศก็มีกฏหมายเป็นของตนเอง มีกระบวนการยุติธรรมที่ใครก็ไม่สามารถได้ก้าวล่วงได้ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ก็ไม่ได้เจาะจงเรื่องนี้มาก เท่ากับเรื่องสิทธิชุมชนในพื้นที่ และจากการที่ผู้เชี่ยวชาญจากไอยูซีเอ็นลงพื้นที่เพิ่มเติมเมื่อเร็วๆนี้ คงจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมไปมากพอสมควร”นางรวีวรรณ กล่าว
