รองโฆษก อสส.เผย อัยการสคช.ดูเเลประชาชนส่งข้าราชการช่วยเหลือกฎหมายผู้ป่วยติดเตียงถึงบ้าน ไกล่เกลี่ยพิพาทที่ดินทุกฝ่ายชื่นมื่น
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงาน อัยการสูงสุด เเละผู้อำนวยการสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้เปิดเผยถึงการดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ของอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ประชาชน (สคช.) ว่าเร็วๆนี้ นาย พงษ์ชาย ชูเชื้อ นิติกรสำนักงานอัยการ สคช.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปถึงบ้านประชาชนให้ความช่วยเหลือ เเกประชาชนที่มาขอให้ อัยการช่วยเหลือตั้งผู้จัดการมรดกของน้องชายที่เสียชีวิต แต่ผู้ตายมีทายาทโดยธรรมเพียง 2 คน คือ บิดา มารดา ซึ่งชรามากแล้วและเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางมายื่นเรื่องเป็นผู้จัดการมรดก และให้ความยินยอมได้ด้วยตนเอง จึงประสงค์ให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรคนโต และเป็นพี่สาวร่วมบิดา มารดาเดียวกัน เป็นผู้จัดการมรดกแทน ซึ่งทาง สำนักงานอัยการ สคช.สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับเรื่องไว้ ก็ได้พิจารณาว่าตัวผู้ตายเองก็ไม่มีทายาทอื่นใด นอกจาก บิดา และมารดา เท่านั้น จึงบริการอำนวยความสะดวกแก่ทายาท โดยได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เป็นผู้จัดการมรดกแทน โดยให้ บิดา มารดา เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้ และยินยอมให้เป็นผู้จัดการมรดกแทน ซึ่งผู้ร้องก็เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยทั้งสองคนด้วยตนเอง
ส่วนอีกเคสเป็น สคช.จังหวัดสระแก้ว โดยนายผาไทย รูปชัยภูมิ นิติกร ได้เดินทางไปที่บ้านของคู่สมรสขอ คือ นางจันทร์เพ็ญ สุภาษิต อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ถนนเทศบาล 6 ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว เป็นทายาทโดยธรรม เเละเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถมาให้ความยินยอม ในการร้องขอจัดการมรดกยังสำนักงานอัยการ โดยบุตรชายผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกได้ไปทำหนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอจัดการมรดกโดยให้ลงชื่อที่บ้าน โดยไม่ต้องนำคู่สมรสของเจ้ามรดกมายังสำนักงานอัยการ ส่วนทายาทที่เหลือจะมาให้ความยินยอมภายหลัง ในกรณีนี้ถือว่าอัยการ สคช.ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ร้องและทายาทอย่างเต็มที่ เเละบริการถึงที่จากใจ เเละเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาได้อัยการไปบริการถึงที่
นอกจากเรื่องช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง 2เคสเเล้วยังมีเรื่องการเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยความ ที่ นายปวริศร เฉลิมแสน อัยการ สคช.ชัยภูมิยังได้เข้าช่วยเหลือประเด็นพิพาทที่ดิน กรณีได้รับคำร้องจากนายศุภชัย พองชัยภูมิ และนางพรประไพ คูบา สองแม่ลูกผู้ร้องว่าได้ซื้อที่ดินจาก นายนาวิน บัวเมืองเก่า จำนวน 2 ไร่ จ่ายเงินไปแล้ว 1,030,000 บาท ต่อมาผู้ขายได้นำที่ดินไปขายให้คนอื่น ผู้ร้องซึ่งได้เดินทางไปร้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงมาร้องขอให้สำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิจังหวัดชัยภูมิเข้าช่วยเหลือ เเละได้เชิญคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติ เเละได้ความว่าผู้ขายไม่มีเงินมาคืนแต่มีที่ดินแปลงอื่นอยู่ ขอตีใช้หนี้ สอบถามผู้ร้องยินดีรับที่ดินแปลงอื่น จึงนัดทั้งสองฝ่ายออกไปยังที่ดิน ทำการแบ่งแยกปักปันที่ดินโดยทีคู่กรณีทั้งสองฝ่ายนำชี้ฝังเสาตามที่ตกลง เนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวาทำบันทึกข้อตกลงเรียบร้อย ซึ่งทั้งสองฝ่ายโอบกอดกันด้วยความพอใจ จนผู้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ถึงกับเอ่ยว่า “รู้อย่างนี้มาหาท่านเปาตั้งแต่แรกก็ดี ขอแสดงความนับถือครับผม” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าว
