กมธ.คมนาคมหารือ’ศักดิ์สยาม’จี้ลดซ้ำซ้อนงาน-ลุยตั้งอนุกก.ด้านความปลอดภัย
นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กระทรวงคมนาคม ว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับการลงทุนในโครงการใหญ่ของกระทรวงคมนาคม ที่ยังมีความซ้ำซ้อน อาทิ การลงทุนระหว่างที่ประเทศกำลังพัฒนา เงินที่มีอยู่ก็มีจำนวนจำกัด แต่ทางกระทรวงทรวงจะต้องแจ้งผลดำเนินงานให้ประชาชนได้รู้ถึงกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ, การลงทุนระหว่างเมือง หรือชนบท ต้องทำให้เกิดความสมดุลมากที่สุด และเรื่องของความปลอดภัย
“ในเรื่องของการลงทุนซับซ้อน ในขณะนี้ ไทยอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจค อาทิ การพัฒนาระบบราง การขนส่งทางอากาศ และการพัฒนามอเตอร์เวย์ ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงฯ ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าลงทุนไปแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ โดยในเบื้องต้นทางกระทรวงฯ ได้มีการชี้แจ้งรายละเอียดของโครงการต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนแล้ว และหลังจากนี้ มีแนวโน้มที่คณะกรรมาธิการฯ และกระทรวงฯ จะได้หารือร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังได้มีการจัดตั้งอนุกรรมาธิการด้านความปลอดภัยทางถนน โดยมี นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เป็นประธาน” นายโสภณกล่าว
นายโสภณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีความ อย่างเรื่องโฮปเวลล์นั้น ไม่ว่าจะเป็นคดีนี้หรือว่าคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ทางคณะกรรมาธิการฯ จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอย่างแน่นอน ส่วนคดีโฮปเวลล์ ทางกระทรวงฯ ได้มีการชี้แจ้งรายละเอียดที่เป็นปัจจุบันให้กับคณะกรรมาธิการฯ ให้รับทราบ และอยู่ระหว่างการพิจารณาหาแนวทางแก้ไข เพื่อชี้แจ้งต่อคณะกรรมาธิการฯ และประชาชนได้รับทราบต่อไป
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงฯ ตนได้มอบหมายให้แต่ละกรม กำชับทุกหน่วยงานให้ประสานงานและทำงานร่วมกันกับสมาชิกผู้แทนราษฎร เพื่อขอข้อมูลทางด้านคมนาคมจากในแต่ละพื้นที่ที่มีความสำคัญ หรือพื้นที่ที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะนำข้อมูลที่ได้มาประกอบกับข้อมูลของทางภาคราชการให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เพราะกว่า 80% ของการหารือระหว่าสมาชิกผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องคมนาคม
“หลังจากนี้ จะมีการรายงานแผนการดำเนินงานของกระทรวงให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงลดความซ้ำซ้อนของขั้นตอนการดำเนินงาน ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง อาจไม่ใช่เรื่องเดียวที่จะเน้น แต่จะมีการบริหารงานไปพร้อมกัน ทั้งในเรื่องของการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งมองว่าเรื่องเหล่านี้ต้องดำเนินการไปด้วยกันห้ามหยุด ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะล้าหลัง นอกจากนี้ ในเรื่องรถไฟไทยจีน ผลการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่เกือบจะสมบูรณ์แล้ว ซึ่งคาดว่าในปี 2578 จะเห็นภาพโครงการนี้ได้อย่างชัดเจน” นายศักดิ์สยามกล่าว