กบข.ตั้งเป้าสมาชิกมีเงินเกษียณ 80% ของรายได้ ชี้เพิ่มสัดส่วนลงทุนตปท. 40% สร้างตอบที่ดี

 

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กบข.ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุนสม่ำเสมอ โดยตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทนในระดับ 4% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากล่าสุดในปีนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ผลตอบแทนของกบข.อยู่ที่ 5% ทั้งนี้หากสามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอตามเป้าหมายที่วางไว้จะทำให้สมาชิกกบข. มีรายได้หลังเกษียณถึง 80 % ของรายได้เดือนสุดท้าย จากค่าเฉลี่ยควรจะได้รับคือ 70% ของรายได้เดือนสุดท้าย

“ที่ผ่านมาหากสมาชิกกบข.ออมเต็มเพดานสามารถรับเงินหลังเกษียรณ 80% ของรายได้เดือนสุดท้ายได้ ซึ่งไม่ได้ทุกคน ดังนั้นกบข.มีเป้าหมายจะให้สมาชิกทุกคนมีรายได้หลังเกณียณ 80% ดังนั้นจึงปรับทิศทางการลงทุนด้วยการเพิ่มเพดานการลงทุนต่างประเทศเป็น 40 % จากเดิม 30 % ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจความต้องการของสมาชิก กบข. ร่วมจัดทำกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ต้องการให้ กบข. มีผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องเป็นผลตอบแทนที่สูงมากนัก แต่ที่สำคัญคือต้องไม่ขาดทุน ดังนั้นต่อไปเป้าหมายของกบข.จะไม่กำหนดว่าจะต้องชนะใคร จะทำได้ปีละเท่าไหร่ แต่จะเน้นความสม่ำเสมอของผลตอบแทนมากกว่า ”นายวิทัยกล่าว

นายวิทัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังไฟเขียวให้กบข.ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นแล้ว อยู่ระหว่างการออกกฎกระทรวง ซึ่งสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้น 10% นั้นกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้แก่ สินทรัพย์ทางเลือกต่างประเทศ คือ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นนอกตลาด รวม 4%, กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ (Absolute Return Fund) 1.5%, ตลาดหุ้นต่างประเทศ 1.5% และตราสารหนี้โลก 3.0%

Advertisement

นายวิทัยกล่าวต่อว่า ในสายตาคนทั่วไปอาจมองว่าเสี่ยงที่ไปลงทุนต่างประเทศ แต่กบข.มีความชำนาญลงทุนต่างประเทศมานับ 10 ปี โดยพบว่าสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนในรูปเงินบาทสูงสุดของกบข. ได้แก่ หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 16.8% หุ้นประเทศเกิดใหม่ 12.4%, Absolute Return Fund 11.7%, และ Global Private Equity 10.2% ในขณะที่หุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ 3.8% พันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ที่ 5.17% เท่านั้น
นายวิทัย กล่าวว่า ปัจจุบัน กบข.ลงทุนต่งประเทศ 28 % ของทรัพย์สินที่เป็นส่วนของสมาชิกที่มีอยู่ 4 แสนล้านบาท ที่เหลือ62 % เป็นการลงทุนสินทรัพย์ในประเทศ ซึ่งการเพิ่มสัดส่วน 10% ของการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ คิดเป็นเงินราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนอกจากช่วยเรื่องผลตอบแทนการลงทุนกบข.สูงขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องค่าเงินบาท เพราะมีการนำเงินออกไปนอกประเทศ และกระตุ้นให้นักลงทุนสถาบันออกไปลงทุนลักษณะเดียวกับกบข.

“ในช่วงนี้เป็นโอกาสของการไปลงทุนต่างประเทศ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และมองว่าคงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยมาก สังเกตจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(PMI)ของสหรัฐ เริ่มผงกหัวขึ้น นอกจากนี้การที่ธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มปั๊มเงินเข้าสู่ระบบรวมถึงลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น จะช่วยทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว”นายวิทัยกล่าว

นายวิทัย กล่าวว่า ปัจจุบัน กบข.มีมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนรวม 9.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของสมาชิก 4 แสนล้านบาท และเงินรัฐบาลอีก 5.4 แสนล้านบาท ในการลงทุน กบข. แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ 67 % การลงทุนหุ้น 19 % และการลงทุนอื่นๆ 13 -14%

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image