สถานการณ์ภัยแล้งโคราชน่าเป็นห่วงต้นมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป จ่อขาดน้ำ 197 หมู่บ้าน ขณะที่การประปาภูมิภาค 3 สาขาเสี่ยงขาดน้ำดิบผลิตประปา พ่อเมืองเร่งแก้ปัญหา สั่งบูรณาการสูบส่งน้ำดิบไปเติม เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำดิบจากแหล่งน้ำต่างๆ แห้งอย่างรวดเร็ว จากผลของสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง โดยปริมาณน้ำใน 4 อ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัด ประกอบด้วย อ่างกักเก็บน้ำลำตะคอง สภาพน้ำปัจจุบันเหลืออยู่ที่ 163 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 52.11% เป็นน้ำใช้การได้ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48.38%, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เหลืออยู่ที่ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 15.93% เป็นน้ำใช้การได้ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 15.54% เท่านั้น
ส่วนอ่างเก็บน้ำมูลบน เหลืออยู่ที่ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 35.68 % เป็นน้ำใช้การได้ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 32.32 % และอ่างเก็บน้ำลำแชะ เหลือปริมาตรน้ำอยู่ที่ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 33.04 % เป็นน้ำใช้การได้ 83 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 31.29 % ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 อ่าง เหลือปริมาตรน้ำรวม 91 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 27.72% และเป็นน้ำใช้การได้ 67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 21.92% ทำให้ปริมาตรน้ำรวมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง เหลือเฉลี่ย 421 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 34.62% แต่เป็นน้ำใช้การได้ 359 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 31.14 %
ทั้งนี้ ข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 13 / 2563 ระบุว่า 22 หมู่บ้านที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ จำเป็นต้องนำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายช่วยเหลือ ขณะนี้ได้เจาะบ่อบาดาลช่วยไปแล้ว 3 หมู่บ้าน ยังคงเหลืออีก 19 หมู่บ้านที่ต้องแจกจ่ายน้ำ อย่างไรก็ตามสั่งการให้ทั้ง 32 อำเภอ เฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยพบว่า เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป จะมีหมู่บ้านที่ขาดแคลนน้ำประมาณ 197 หมู่บ้าน ซึ่งตอนนี้กำลังลำเลียงสูบส่งน้ำไปช่วย 197 หมู่บ้านเป้าหมายเหล่านี้แล้ว เพื่อให้เพียงพอใช้ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2563 ขณะเดียวกัน มีแผนดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเติมอีก 60 หมู่บ้าน แต่หลังจากลงไปสำรวจ มี 20 หมู่บ้านที่พื้นที่มีความเค็มสูง ไม่สามารถดึงน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ จึงเหลือเป้าหมายขุดเจาะบ่อบาดาลเพียง 40 หมู่บ้านเท่านั้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) เขื่อนลำตะคอง ได้รายงานว่า จะขอลดการระบายน้ำลงจากปกติ 3-5 มิลลิเมตร/วินาที จะเหลือ 2 มิลลิเมตร/วินาที ทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอต่อการปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก เกษตรกรจึงต้องหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เพื่อเก็บสำรองน้ำในอ่างเก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด จนกว่าจะมีน้ำเข้ามาเติมในช่วงฤดูฝน ซึ่งการจ่ายน้ำจะสงวนไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ทุกคนจะต้องใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนการประปาเทศบาลนครนครราชสีมายังไม่มีปัญหา แต่มีการประปาส่วนภูมิภาค สาขาโนนสูง , การประปาส่วนภูมิภาค สาขาด่านขุนทด และการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพิมาย ที่คาดว่าจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา ซึ่งทางจังหวัดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งแก้ปัญหา เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคไปตลอดฤดูแล้งนี้ให้ได้
