ลูกชายชาวประมงพื้นที่บ้าน เขาไม้แก้ว เผยทั้งน้ำตา หลังจากลอยคอกลางทะเลนานเกือบ 24 ชม. เจอคลื่นสูงซัดเรือจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ลอยคอกลางทะเลพร้อมกับพ่อ แต่โดนคลื่นซัดซ้ำสอง พ่อลูกแยกออกจากกัน เห็นพ่อจมน้ำทะเลไปต่อหน้า แต่ไม่สามารถช่วยเหลือพ่อได้ ล่าสุดหน่วยกู้ภัยตำรวจน้ำ เพื่อนชาวประมงออกตามหา แต่พ่อยังหายตัวไปไร้ร่องรอย ลูกชายคาดว่าพ่อตายแล้ว ขณะที่บริเวณท่าเรือประมงพื้นบ้านเขาไม้แก้ว วันนี้เงียบเหงา ส่วนคลื่นลมยังรุนแรง
กรณีที่มีการนำเสอนข่าวเรือประมงพื้นบ้านแตกกลางทะเล พ่อลูกหายตัวไป ล่าสุดเจอลูกชายแล้ว ชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง อาชีพทำอวนปู 2 พ่อลูก ที่ถูกคลื่นใหญ่ซัดจนเรือล่มบริเวณเรือปูนหัวเกาะลันตา หัวเกาะปอ ขณะล่องเรือกลับจากเก็บอวนปูเพื่อขึ้นฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิเกา จ.ตรัง อาการปลอดภัยท่ามกลางการดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด เผยเล่าเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าวพร้อมกับสะอื้นร่ำไห้ ไม่มีความหวังว่าพ่อจะรอดหลังจากที่โดนคลื่นซัดพาพ่อลอยออกไปกับตา ในขณะที่ตนเองต้องว่ายลอยคออยู่ในน้ำมีเพียงโฟมขนาด 1 ฟุต ช่วยพยุงตัวนาน 24 ชั่วโมง ก่อนจะขึ้นไปบนเกาะรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังท่าเรือแหลมไทร หมู่ที่ 3 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นท่าเรือที่ 2 พ่อลูกชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง นายโสภณ หมาดทิ้ง อายุ 38 ปี และนายวิทวัส หมาดทิ้ง อายุ 19 ปี อาชีพทำอวนปูได้ออกเรือเพื่อไปเก็บอวนปูที่ได้วางเอาไว้ บริเวณเรือปูนหัวเกาะลันตา หัวเกาะปอ จนถูกคลื่นใหญ่ซัดจนเรือล่มขณะล่องเรือกลับจากเก็บอวนปูเพื่อขึ้นฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2562 มีรายงานจากญาติว่า ได้พบตัวผู้เป็นลูกชายแล้ว คือนายวิทวัส หรือวัฒน์ อายุ 19 ปี ที่บริเวณหินธง หัวเกาะไหง ในสภาพอิดโรย ก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสิเกา อ.สิเกา จ.ตรัง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสิเกา ซึ่งได้ขออนุญาตจากทางโรงพยาบาล เนื่องจากทางโรงพยาบาลสั่งงดการเข้าเยี่ยม ซึ่งในห้องผู้ป่วยมีญาติ เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ทางแพทย์ยังคงสั่งงดอาหารและน้ำโดยนายวิทวัสเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังในขณะตอนเกิดเหตุว่าพร้อมกับสะอื้นร่ำไห้ตลอดเวลา เพราะภาพเหตุการณ์ที่พ่อโดนคลื่นซัดแยกห่างจากตนเองยังติดตา
นายวิทวัส กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนได้ออกเรือไปกับพ่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ในช่วง 22.00 น.เกิดพายุมีคลื่นลมแรง คลื่นลูกใหญ่ลูกแรก ซัดเข้ามาที่ตัวลำเรือทำให้เรือล่ม ตนเองและพ่อกอดกันโดยเอาแกนลอนเพื่อใช้ในการลอยตัว แต่หลังจากนั้นไม่นานมีคลื่นลูกที่ 2 ซัดเข้ามาทำให้ตนเองและพ่อแยกออกจากกัน คลื่นซัดพาพ่อลอยไปต่อหน้าต่อตา แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ตนเองว่ายน้ำลอยตัวกลางทะเลจนไปพบโฟมที่ลอยน้ำขนาด 1 ฟุต จึงคว้าเอาไว้ประคองตัวเองลอยน้ำเรื่อยเข้าหาฝั่งขึ้นเกาะไหง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความหวังว่าพ่อจะกลับมาหรือไม่ นายวิทวัส กล่าวว่า ตนเองไม่มีความหวังว่าพ่อจะมีชีวิตเพราะเห็นพ่อจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา คลื่นรุนแรงมาก คาดว่าคงไม่รอดแน่นอน
ในขณะที่นางสาวแดง รักทรัพย์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง เป็นน้าสาว กล่าวเสริมว่า เมื่อช่วงเช้าหลังจากเข้ารับการรักษาตัวเรียบร้อยแล้ว หลานชายมีสติดีมากตอนช่วงเกิดเหตุยังเอาธงไปปักบริเวณที่เรือจม โดยนายวิทวัส เล่าให้ฟังว่า เมื่อลอยไปติดเกาะขึ้นฝั่งได้แล้วเกิดหิวน้ำจึงเดินเข้าไปในถ้ำหยิบขวดน้ำที่ติดเกาะอยู่บริเวณนั้น ไปเอาน้ำในถ้ำดื่มประทังความกระหาย จากนั้น ออกมายืนที่ชายฝั่งเห็นมีคน เจ้าหน้าที่แล่นเรือตามหา ถอดเสื้อโบกขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครเห็น ทั้งนี้ หลังจากประกาศขอความช่วยเหลือมีเครื่องบินตรวจการ กรมทรัพย์ฯ ทหารเรือ ตำรวจน้ำช่วยกันออกตามหา รวมทั้งเพื่อนบ้านชาวประมงพื้นบ้าน นำโดยนายสมหมาย หมาดทิ้ง กำนันตำบลเขาไม้แก้ว ช่วยกันตามหา พร้อมเรือประมงออกตามหาผู้ที่สูญหาย
อย่างไรก็ตามถึงเวลา 17.00 น. แม้หน่วยกู้ภัยอำเภอสิเกา ตำรวจน้ำ เพื่อนๆเรือประมงพื้นบ้าน จะออกค้นหาตามเกาะต่างๆ แนวป่าโกงกาง รวมทั้งพื้นที่ตามทิศทางลม ที่คาดว่าอาจจะถูกคลื่นซัดไปติดอยู่ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบผู้ที่ยังสูญหายแต่อย่างใด