09.00 INDEX แผนลึก สามมิตร พลังประชารัฐ ชิมลาง ยึด “เลขาธิการพรรค”
การประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม จะเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่ง
เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนตัว “เลขาธิการพรรค”
หากตรวจสอบผ่านน้ำเสียงของ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส.พรรค หรือแม้กระทั่งจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค
เด่นชัดถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ ที่เลขาธิการพรรคอาจไม่ใช่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อีกแล้ว
คำถามอยู่ที่ว่าเป็นการเปลี่ยนอย่าง ”บีบ” หรือว่า ”สมัครใจ”
เพราะมีข่าวบางกระแสปรากฏออกมาว่า มีความพยายามจะรักษาเก้าอี้ของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เต็มกำลัง
แต่ก็ยากที่จะทัดทาน ”กระแส” กดดัน บีบรัดได้
ต้องยอมรับว่าการก่อรูปพรรคพลังประชารัฐขึ้น เพื่อการสืบทอดอำนาจของคสช. ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดจากการประกอบส่วนของ 3 กลุ่มทางการเมือง
1 กลุ่มของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
1 กลุ่มกปปส.เดิมจากพรรคประชาธิปัตย์
1 กลุ่มสามมิตรนำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า 2 กลุ่มแรกไม่ได้ต้องการเปลี่ยน หากกระแสกดดันให้เปลี่ยนตัว นายสนธิรัตน์ สนธิรัตน์ เป็นบุคคลอื่น มาจากกลุ่มสามมิตรอย่างเป็นด้านหลัก
เพียงแต่ความโน้มเอียงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ค่อนข้างโน้มเอียงไปทางกลุ่มสามมิตรมากกว่า 2 กลุ่มแรก
นั่นก็มิได้หมายความว่า 2 กลุ่มแรกจะสุกงอมและเห็นชอบด้วย
หากจับ “อาการ” จะเห็นได้ว่า มีการรุกไล่จากกลุ่มสามมิตรเพื่อกดดันให้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อย่างต่อเนื่องโดยเคลื่อนไหวผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อยู่ในภาวะเหมือนน้ำท่วมปาก
ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ กลุ่มกปปส.จากพรรคประชาธิปัตย์มีสาย สัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับกลุ่ม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
นี่คือปัจจัยอันอาจเป็น”ตัวแปร”ภายในพรรคพลังประชารัฐ
