สภาอุตท่องเที่ยวเชียงใหม่ชี้แฟลชม็อบไม่กระทบท่องเที่ยว หากไม่สร้างความวุ่นวาย-รุนแรง

ภาพจากพรรคอนาคตใหม่

สภาอุตท่องเที่ยวเชียงใหม่ชี้แฟลชม็อบไม่กระทบท่องเที่ยว หากไม่สร้างความวุ่นวาย-รุนแรง

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 นายบุญทา ชัยเลิศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ฝ่ายอาเซียนสัมพันธ์ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เผยกรณีการชุมนุมของกลุ่มแฟลชม็อบ เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ ว่า หากชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่สร้างความวุ่นวาย และไม่ก่อความรุนแรง ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย ดังนั้น อยากให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจเปิดใจยอมรับความเห็นต่าง และเปิดพื้นที่ให้ประชาชน หรือกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกและสะท้อนความต้องการอย่างสงบและสันติ ภายใต้กรอบกฎหมาย ที่สำคัญไม่ควรไปปิดกั้นการแสดงออกทางด้านสิทธิเสรีภาพประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

“ส่วนตัวเชื่อว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพราะเป็นการชุมนุมชั่วคราว ไม่ได้ปักหลักชุมนุมเป็นเวลานาน หรือใช้เวลาหลายวันจนลุกลามบานปลาย ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายอดทน อดกลั้น ไม่ยั่วยุและไม่สร้างความรุนแรง อยากให้ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนหรือคัดค้านรัฐบาล

“เพราะเป็นชาวเชียงใหม่ด้วยกัน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่รัฐที่บังคับใช้กฎหมายไม่ควรสร้างเงื่อนไข ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม อาจสร้างความไม่พอใจและต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น จนกลับไปสู่ความขัดแย้งเหมือน
เดิม ไม่ยุติเสียที” นายบุญทากล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามีการชุมนุมเกิดขึ้นหรือไม่ เชียงใหม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนเดิม นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 50-60% โดยเฉพาะชาวจีนที่หันไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว กัมพูชา และเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนาม ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเพียง 8 ล้านคน ปีนี้กลับเพิ่มเป็น 25 ล้านคน เพิ่มขึ้น 300-400% ทั้งนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อาเซียน และยุโรป ซึ่งเมืองดานัง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียดนาม มีโรงแรมมากกว่าเชียงใหม่ถึง 3 เท่าตัว ถูกจองเต็มหมดตลอดปี จึงกระจายไปพักที่เมืองเว้ ที่อยู่ห่างไปถึง 100 กิโลเมตรแทน

Advertisement

นายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การชุมนุมแบบแฟลชม็อบ หากชุมนุมบ่อยหรือเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพราะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก หลังเลือกตั้งและมีรัฐบาลแล้ว หากมีปัญหาควรไปพูดคุยกับในสภาผู้แทนราษฏร เพื่อหาทางออกและยุติปัญหามากกว่าชุมนุมข้างถนน

“อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมหรือคัดค้าน อยากให้โอกาสรัฐบาลทำงาน เพราะมาทำงานได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หากชุมนุมแล้วเกิดบานปลาย ยิ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ประเทศมากขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายควรปรองดอง หันหน้ามาพูดคุย เจรจากัน โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ลดการเผชิญหน้าที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างชาติ ที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน คมนาคม และท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นตามลำดับ” นายเฉลิมชาติกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image