‘วิเชียร’ปวด’ริดสีดวงทวารหนัก’ขั้นเลือดตกยางออกขอย้ายไปผ่าตัด แย้มอยากอยู่ใกล้ครอบครัวด้วย แจ้งอธิบดีขออยู่อีสาน ปัดไม่มีดราม่ากดดันใดๆ ด้าน โฆษกอุทยานฯ ระบุไม่เกินเดือนย้ายได้ สังกัด สบอ.ที่10 อุดรธานี เร่งหาคนแทนนายวิเชียร เพราะเป็นพื้นที่สำคัญ
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ด่วน !! วิเชียร ชิณวงษ์ ขอย้ายตัวเองออกจากทุ่งใหญ่นเรศวร
วันที่ 18 ธ.ค.62 นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก แถลงข่าวการขอย้ายออกจากพื้นที่
นายวิเชียร กล่าวว่า เรื่องการขอย้ายเป็นเรื่องส่วนตัว การทำงานในวันใดวันหนึ่งก็มีการโยกย้าย เป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนได้ทำหนังสือขอย้ายมายังนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ มาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากงานยังไม่ลงตัวรวมทั้งคดีความเรื่องเสือดำ ซึ่งขณะนี้คดีเสือดำศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว จึงอยากออกมาชี้แจงต่อสังคมว่า การขอย้ายไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ จากคดีเสือดำใดๆ ทั้งสิ้น และหากจะมีแรงกดทางผู้บังคับบัญชาก็ดูแลพร้อมจะเผชิญแรงกดดันไปด้วยกัน ไม่เคยทอดทิ้ง ไม่อยากให้หลายคนจินตนาการซึ่งเป็นกระแสในโซเชียลว่าเกิดจากแรงกดดัน ขอยืนยันว่าไม่มีแรงกดดันใดๆ ขอให้ทุกคนสบายใจได้
“ผมสุขภาพไม่ค่อยดี เป็นริดสีดวงทวารหนัก มีอาการกำเริบมาเป็นปีแล้ว ทำให้การเดินทางมีปัญหา เพราะหนทางเข้าป่ายากลำบาก อีกทั้งเวลาเข้ารักษาตัวก็ไกลจากพื้นที่ และอีกไม่นานต้องผ่าตัดแล้ว หากสุขภาพแย่คงดูแลป่าไม่ได้ จึงขอพักฟื้นตัวเองก่อน ซึ่งผมปวดถึงขั้นเลือดตกยางออก มีอาการปวด ทรมาน หมอให้ยารักษามาเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายแล้วต้องผ่าตัด เลยอยากไปทำงานที่อื่นที่มีเนื้องานไม่เยอะเท่าที่นี่ โดยผมแจ้งทางอธิบดีว่าอยากอยู่ภาคอีสาน”นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เรื่องสุดท้ายคือเป็นห่วงครอบครัว ตอนนี้ลูกชายอายุเกือบเต็ม 1 ขวบ แต่ตนอยู่ไกลจากบ้านเกือบพันกิโลเมตร รู้สึกว่าเอาเปรียบภรรยาที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว จึงอยากดูแลครอบครัวมากขึ้น อีกทั้งไม่ว่าอยู่ไหนก็ทำงานได้เหมือนกัน ทำงานเต็มที่ ซึ่งแล้วแต่ว่าผู้บังคับบัญชาจะให้ตนย้ายไปที่ไหน
เมื่อถามนายวิเชียรว่า เมื่อหายดีแล้วจะกลับมาทำงานที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกอีกหรือไม่ นายวิเชียร ตอบว่า เป็นเรื่องของอนาคต
ด้านนายสมโภชน์ กล่าวเสริมว่า เนื่องจากนายวิเชียรทำงานอย่างหนัก และตั้งใจ แต่มีสาเหตุหลักจำเป็นต้องขอย้ายออกจากพื้นที่ในเรื่องสุขภาพ และอยากดูแลครอบครัวซึ่งอยู่ในจ.ศรีสะเกษ ซึ่งการขอย้ายหากเราไม่ชี้แจงต่อสังคม เกรงว่าจะเกิดการเข้าใจผิดว่าถูกกดดันในพื้นที่ สิ่งสำคัญเราต้องดูแลเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราก็อยากให้นายวิเชีรทำงานต่อไปเพราะเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ แต่เนื่องจากมีาเหตุต่างๆ จึงต้องหาทางออกให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องคดีความนายวิเชียรก็ยังจำเป็นต้องขึ้นศาล แต่ก็อยู่ในขั้นศาลอุทธรณ์แล้ว
“ประเด็นสำคัญคือการรักษาสุขภาพให้ดีก่อน จึงจะกลับมาออกรบใหม่ ยืนยันว่ากรมอุทยานไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่และพร้อมจะหนุนหลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาผืนป่าเอาไว้ โดยกรมอุทยานฯจะย้ายนายวิเชียรไปอยู่ในพื้นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ตามที่นายวิเชียรแจ้งไว้ว่าในภาคอีสาน ซึ่งคาดว่าไม่เกินเดือนจะได้ย้ายทันที”นายสมโภชน์ กล่าว
โฆษกกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อไปคือจะนำใครมาย้ายแทนนายวิเชียร เพราะพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกมีความสำคัญมาก ทั้งเรื่องสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือโคร่งที่เพิ่มมากขึ้น บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า และการบริหารจัดการคนอยู่กับป่าให้มีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากกรมอุทยานฯ มีบุคลากรไม่มาก เราจำเป็นต้องคัดสรรบุคลากรที่มาดูแลในพื้นที่นี้ ซึ่งต้องคัดคนมีประสบการณ์เพื่อทำงานให้ดีและเหมาะสมที่สุด ส่วนระยะเวลาก็ต้องหาคนมาแทนในระยะที่ใกล้เคียงกับนายวิเชียรที่ต้องการย้ายออก เพื่อให้งานดำเนินอย่างต่อเนื่อง
