เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมโครงการพัฒนาข้าราชการที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ หลักสูตรพัฒนากรก่อนประจำการรุ่นที่ 111 พร้อมมอบวุฒิบัตร และให้โอวาทตลอดจนแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบผลสำเร็จแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมฯ โดยมีคณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนัก/กอง กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมพิธี
อธิบดีพช. กล่าวให้โอวาทและมอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ต่อพัฒนากร รุ่นที่ 111 ว่า “พัฒนากรเป็นความหวังของชาวบ้าน เป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนงานนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจรากให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ตำบลมีคุณภาพชีวิตที่ดี พัฒนากรต้องทำตัวเหมือนรวงข้าวสุกเหลืองอร่าม แม้จะเป็นข้าวที่แข็งแรง ก็ยังโน้มลงหาแผ่นดิน เปรียบเสมือนความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนที่เมื่อผู้คนได้สัมผัสก็จะยกย่องให้เกียรติ จะทำให้ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ตลอดจนภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐ และเอกชน และพัฒนากรต้องเป็นผู้ที่เท้าติดดิน เป็นผู้ลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริง ปัญหา ความต้องการ ดังคำกล่าวที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีของกระทรวงมหาดไทย กล่าวไว้ว่า “การเป็นผู้นำนั้น ต้องให้รองเท้าขาดก่อนกางเกง คือ ต้องออกตรวจตราจนรองเท้าขาด ไม่ใช่นั่งเก้าอี้จนกางเกงขาด”
กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนหมู่บ้าน ตำบลให้เข็มแข็ง ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อก้าวไปสู่ เศรษฐกิจครัวเรือนมีความมั่นคง ประชาชนใช้ชีวิตในชุมชนอย่างมีความสุข รวมทั้ง ได้กำหนดวาระกรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนภารกิจกรมการพัฒนาชุมชนไปปฏิบัติ ด้วยพลังแห่งการพัฒนา รวมพลังเป็นหนึ่ง ทั้งภาครัฐในทุกภาคส่วน ทำงานแบบบูรณาการและสร้างความร่วมมือกับเอกชน ร่วมสร้างประโยชน์สุขให้เกิดกับประชาชน อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตลอดไป หัวใจสำคัญของความสำเร็จอยู่ที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ นั่นคือ “พัฒนากร” ซึ่งเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดพี่น้องประชาชนมากที่สุดและเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง Change for Good นำความเจริญไปสู่หมู่บ้าน ชุมชน โดยทำงานผ่านกลไกผู้นำ กลุ่ม องค์กร และเครือช่ายการพัฒนาชุมชนในระดับพื้นที่ เพื่อใช้พลังชุมชนในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาของชุมชน รวมถึงร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอ ในการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนและแผนพัฒนาตำบลด้วย
อธิบดีพช. กล่าวอีกว่า ขอให้พัฒนากรรุ่นใหม่ จงยึดมั่นในหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกระบวนการพัฒนาชุมชน ทำงานติดพื้นที่ รักชาวบ้าน สร้างความเจริญงอกงาม ให้กับหมู่บ้านชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ยึดมั่นในระเบียบวินัย เป็นข้าราชการที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม และเป็นนักพัฒนาที่สร้างศรัทธา ให้พี่น้องประชาชน ให้สมดังคำขวัญพระราชทาน “พัฒนาคือสร้างสรรค์” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานไว้ และให้ทำตัวเหมือน “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” ที่รัชกาลที่ 9 พระราชนิพนธ์ไว้ เพราะพระองค์ท่านทรงปลูกฝังและให้ความสำคัญในเรื่องของการทำความดีมาโดยตลอด ดังพระราชดำรัสว่า….
“งานทุกอย่างที่มีด้านหน้าเเละด้านหลังเหมือนเหรียญบาท งานด้านหน้านั้นมีคนทำกันอย่างเยอะเเยะ เเละมีคนเเย่งกันทำเพราะมีผลเห็นได้ชัด เเละปูนบำเหน็จกันได้อย่างเต็มที่ เเต่งานด้านหลังที่ไม่ปรากฏต่อสายตาคน ต้องเป็นคนที่เข้าใจงานเเละหน้าที่ของตัวเองจริงๆ ถึงจะทำได้ เเละต้องเสียสละด้วย เพราะงานด้านหลังเป็นงาน “ปิดทองหลังพระ” ถ้าทำดีแล้วต้องไม่ให้เห็นปรากฏ เเละต้องยอมรับว่าไม่ได้อะไรตอบเเทนเลย นอกจากความภาคภูมิใจในการทำงานในหน้าที่ของตน” ขอให้พัฒนากรเป็นตัวแทนของกรมการพัฒนาชุมชน ได้อย่างภาคภูมิ
ทั้งนี้โครงการอบรมพัฒนากรก่อนประจำการถือเป็นหลักสูตรบ่มเพาะและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับพัฒนากรรุ่นใหม่ จากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้และมาแสดงตนเพื่อรับการบรรจุเข้ารับราชการ ในตำแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ ทั้งสิ้น 103 คน ฝึกอบรม 40 วัน ระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคม 2562 โดยเรียนรู้ภาคทฤษฎีและวิชาการ ตามที่ ก.พ.กำหนด ที่วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านบ่มเพาะข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนมาแล้วมากมาย และการฝึกภาคสนามในบทบาทพัฒนากรเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริง การทำงานจริง และที่สำคัญได้กินได้นอน ได้อยู่กับครัวเรือนรับรอง ได้ปรับตัวและสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน ณ จังหวัดอุบลราชธานี
การฝึกอบรมในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ติดอาวุธ สร้างแรงบันดาลใจ และปลุกอุดมการณ์ เพื่อให้สามารถลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ได้อย่างมีประสิทธิภาพและอุดมการณ์เต็มเปี่ยม
