‘สุพันธุ์’ห่วงส่งออกทรุด เผยกกร.นัดแรก8ม.ค.ถกรับมือบาทแข็ง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีความกังวลอย่างมากที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงไปต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้วในช่วงสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา เพราะจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกโและการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยในปี 2563 มากขึ้นหลังจากที่ปี 2562 ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของค่าเงินบาทที่แข็งค่าลงไปเร็วและลงไปต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ต้องไปดูรายละเอียดว่าเป็นผลจากปัจจัยอะไร โดยเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงซึ่งจะทำให้ค่าเงินสกุลต่าง ๆ แข็งค่าขึ้นอยู่แล้ว หรือมีเงินไหลเข้าทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ ต้องมีการพิจารณาการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งด้วยว่าทิศทางเป็นอย่างไร เงินบาทสอดคล้องกับภูมิภาคหรือไม่
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า วันที่ 8 มกราคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และส.อ.ท. ครั้งแรกของปี โดยมีนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธาน โดยจะมีการหารือถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทว่าภาคเอกชนจะมีแนวทางรับมืออย่างไร อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ด้วยว่าจะแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรหรือจะมีมาตรการอะไรบ้างเพื่อดูแลค่าเงินบาท รวมทั้ง ในการประชุมจะมีการประเมินภาพรวมเศรษกิจปี 2562 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2563 ด้วย
“การประชุมเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กกร.คาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี 2562 ที่ 2.7-3.0% ขณะที่การส่งออกคาดอาจจะติดลบถึง 2% หรืออาจจะไม่ขยายตัว มาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ สถานการณ์เบร็กซิท และเงินบาทที่แข็งค่า โดยจะมีการทบทวนตัวและประมาณการณ์ใหม่ทั้งปี 2562 และปี 2563 ในการประชุมเดือนมกราคมนี้” นายสุพันธุ์กล่าว
