จากกรณีคนร้ายงัดห้องพักในโรงแรมเกาะหลักรีสอร์ท ริมชายหาด ถนนสวนสน – อ่าวน้อย เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขัน และโรงแรมสบายสบาย รีสอร์ท ริมถนนเพชรเกษมขาเข้า กทม. ต.เกาะหลัก อ.เมือง โดยขโมยทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนบาทจากครอบครัวนักท่องเที่ยวหลายราย ที่เดินทางจากต่างจังหวัดเข้าพักในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้ทรัพย์สินประกอบด้วยทองรูปพรรณ เงินสด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2562
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 มกราคม พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายอาทิตย์ เชิงไกรยัง หรือทิตย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 6 ถนนหน้าเรือนจำ อ.ท่าราบ จ.เพชรบุรี รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินขาว ติดป้ายทะเบียน 1กจ.9339 ประจวบคีรีขันธ์ของรถคันอื่น เสื้อที่สวมในวันก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือจำนวน 10 เครื่อง และทรัพย์สินที่ขโมยมาหลายรายการ ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพที่โรงแรมสบายสบายรีสอร์ท และเกาะหลักรีสอร์ท หลังจากจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่า หมู่ 6 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก หลังจากพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์หลายรายการทั้ง 2 โรงแรม
จึงตรวจสอบเบาะแสจากกล้องวงจรปิด จากนั้นนำมาสแกนเพื่อหาบุคคลต้องสงสัย โดยมีพยานยืนยันยันว่าบุคคลในกล้องวงจรปิดคือนายอาทิตย์ และจากการตรวจสอบพบว่ามีประวัติโชกโชนเคยถูกจำคุกหลายครั้งในคดีลักทรัพย์ที่เรือนจำ จ.เพชรบุรี และมีหมายจับของ สภ.หัวหินในคดีชิงทรัพย์ใช้อาวุธมีดจี้พนักงานเคเบิ้ลทีวีหัวหินชิงสร้อยคอทองคำ เจ้าหน้าที่จึงนำภาพไปลงในเพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งเบาะว่าพบผู้ต้องหากบดานอยู่ในบ้านเช่าที่ อ.ทับสะแก จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุ ได้ขี่มอเตอร์ไซด์ที่ลักมาจาก อ.หิวหิน ขี่ตระเวนดูลาดเลาตามโรงแรมหลายแห่งที่มีผู้เข้าพักจำนวนมาก แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงสบายสบายรีสอร์ท ได้จอดรถแล้วเข้าไปสุ่มเลื่อนหน้าต่างบานกระจกตามห้องพักต่างๆที่ผู้เข้าพักไม่ได้ล๊อค จากนั้นได้ปีนเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินอย่างใจเย็น ในขณะที่ผู้เข้าพักหลับสนิท หลังได้ทรัพย์สินหลายรายการแต่ไม่เอาโทรศัพท์มือสมาร์ทโฟน เนื่องจากผู้ต้องหาแจ้งว่ามีใช้แล้วหลายเครื่อง
ต่อมาผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่โรงแรมเกาะหลักรีสอร์ท ที่ห่างออกไปราว 5 กิโลเมตร โดยรอเวลาให้ห้องอาหารของโรงแรมปิดทำการ จากนั้นได้งัดประตูย่องเข้าไปขโมยเบียร์ในห้องครัวนั่งดื่มพร้อมกับแกล้มอย่างใจเย็น 3 ขวด ก่อนลงเลือกห้องพักที่ในจุดเปลี่ยว ไม่มีแสงสว่างด้านนอก ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัย และเลื่อนบานหน้าต่างกระจก 2 ห้องพักขโมยทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์ไป อ.ทับสะแก ห่างออกไป 40 กิโลเมตรไปโดยเลือกบ้านเช่าในสวนปาล์ม ห่างจากถนนเพชรเกษมเพื่อกบดาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทำแผนมีประชาชนให้ความสนใจมุงดูจำนวนมาก ผู้ต้องหากล่าวขอโทษครอบครัวนักท่องเที่ยวทุกรายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อเหตุ สำหรับการขโมยทรัพย์สินทำให้ที่ผ่านมาผู้ต้องหาถูกศาลตัดสินจำคุกมากกว่า 10 ครั้งใน จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี
