‘สธ.-สถาบันราชานุกูล’ ชวนร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 10 ม.ค. ชูพัฒนาสู่เด็กไทย4.0

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ผู้สื่อข่ารายงานว่า ในวันที่ 10 มกราคมนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล ร่วมเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ที่สถาบันราชานุกูล พร้อมชมการแสดงความสามารถของเด็กกลุ่มที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครอง และเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญากว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เพี่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ความสำคัญในเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยตนเอง

นายสาธิต กล่าวว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาประชากรไทยทุกช่วงวัย เพื่อเป็นพลังต่อการเจริญเติบโตของประเทศ
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการด้านพัฒนาเด็กปฐมวัยที่เป็นช่วงแรกของชีวิตเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมีนโยบายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดให้การดำเนินการในด้านนี้ เป็นความรับผิดชอบในระดับเขตสุขภาพและจังหวัด ผ่านคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก (MCh Board) โดยไม่ได้กำหนดกิจกรรม แต่กำหนดเป็นเป้าหมายไว้ 2 ประการ คือ การลดอัตราการตายของมารดา ซึ่งเป็นไปตาม MDG (millennium development goal) และเด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 85.8 และในปี 2563 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังคงดำเนินการต่อเนื่องในการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก โดยการจัดระบบบริการอนามัยแม่และเด็กที่ได้มาตรฐานสากล และสร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมคลอบคลุม ทั้งเด็กปกติ เด็กปวย และเด็กด้อยโอกาส

นายสาธิต ปิตุเตชะ กล่าวต่อว่า เมื่อเด็กมีความพร้อมทางพัฒนาการและสติปัญญา กับการได้รับการศึกษาที่ดี ก็จะมีโอกาสได้งานที่มีรายได้สูง มีโอกาสก้าวข้ามความยากจนได้สำเร็จ ซึ่งจะนำประเทศไทย บรรลุเป้าหมายสำคัญของแผนพัฒนาแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิต เร่งยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกแก่ศูนย์เด็กเล็ก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.และครูโรงเรียนอนุบาล เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย แก่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุน และผลักดันการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ครบ คลุมทั้ง 77 จังหวด

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วยว่า กรมสุขภาพจิตได้มีการสำรวจระดับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และระดับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กไทยทุก 5 ปี โดยระดับสติปัญญาของเด็กไทยเพิ่มขึ้นจาก 95.82 จุดในปี 2554 เป็น 98.23 จุด ในปี 2559 “สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายพัฒนาระดับ IQ เด็กไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ในปี 2564” ขณะที่ระดับความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กไทย (EQ) ที่เป็นจุดต้องพัฒนา ได้แก่ ความมุ่งมั่นพยายาม การควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวต่อปัญหา โดยในปี 2559 มีเด็กรอยละ 16.7 มีระดับอีคิวที่ต่ำกว่าปกติ กรมสุขภาพจิตมีเจตนารมณ์ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนไทย 4.0 เพื่อเป็นพลังพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นคนมีลักษณะสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวก และคิดทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม (Creation, Positive, Response to Society : CPR) คือ คิดเป็น คิดดี คิดให้ และเป็นสุข มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กไทยให้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ขณเดียวกัน พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง แม้จะพบกับความล้มเหลว ก็ยังสามารถเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ อย่างมีความสุข สนุกกับชีวิต มีแนวทาง ใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหา สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และแบ่งปันให้ผู้อื่นในสังคม

พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่าสถาบันราชานุกูล ได้พัฒนาคู่มือจัดกิจกรรมการพัฒนาเด็กไทยคิดเป็น คิดดี คิดให้ ด้วยสายใยพันผูก ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกผ่านการเล่นกับลูก โดยไม่จำเป็นต้องจัดหาของเล่น หรืออุปกรณ์การเล่นที่ราคาแพงหายาก
ดังนั้น ในวันนี้ เป็นการเปิดเฟชบุ๊คแฟนเพจ ในชื่อ “ลูกเล่น by ราชานุกูล” (Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล) เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารแบบออนไลน์ของประชาชนกับทีมสหวิชาชีพผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก โดยนำเสนอแนวทางการเล่น และการเลี้ยงดูลูกให้เป็นเด็กไทย”คิดเป็น คิดดี คิดให้” (CPR) ในรูปแบบคลิปวิดีโอที่สนุกสนาน ได้ความรู้ พร้อมเคล็ดลับจากกูรูพ่อแม่ที่น่าสนใจ มาแลกเปลี่ยนกัน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rajanukul.go.th Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image