เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมชุดคอมมานโด 904 ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ผบ.ตร.ได้เดินทางมาติดตามคดีนี้ด้วยความเป็นห่วง พร้อมได้แนวทางการทำงานและมอบเงิน 1 ก้อน ให้แก่ชุดทำงาน อีกทั้งยังมอบหมายให้พลตำรวจเอก ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดควบคุมคดีนี้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จากแนวทางการทำงานของชุดสืบสวนและเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไปทางถนนเลี่ยงเมือง มุ่งหน้าไปทางแยกโพธิ์เก้าต้น ซึ่งถึงจุดนั้นอาจจะหลบหนีไปทาง อ.ท่าวุ้ง ไปสิงห์บุรี อ่างทอง หรือวกเข้าตัวเมืองลพบุรีก็เป็นไปได้ ซึ่งยอมรับว่ากล้องวงจรปิดมีน้อยมาก เจ้าหน้าที่แบ่งกันทำงานไม่ได้หยุด ซึ่งตอนนี้ยังอาศัยผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเจาะไปที่บุคคลหรือกลุ่มคนร้าย ส่วนเงินรางวัลสูงถึง 3 แสนบาท และยังมีมาเรื่อยๆ เชื่อว่าคนที่ใกล้ชิดคนร้ายคนนี้ต้องรู้ดีว่าเป็นใคร และคนคนนี้ไม่ธรรมดา ขอให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสเข้ามา แต่การที่จะสงสัยใครสักคนต้องทำด้วยความรอบคอบ ส่วนใครที่มีกล้องวงจรปิดหน้ารถที่อาจจะเห็นรูปพรรณสัณฐานคนร้าย ก่อนลงมือและหลังลงมือก่อเหตุ ก็ช่วยแจ้งมาด้วยเพราะเป็นเบาะแสที่สำคัญและเป็นประโยชน์
ส่วนที่มีการสอบถามว่าเป็นทหารหน่วยพลร่มหรือไม่นั้น ยังไม่สรุป ซึ่งทางหน่วยทหารทุกหน่วยต่างพร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ต้องขอบคุณประชาชนที่โทรมาให้กำลังใจและให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง” พล.ต.ท.อำพลกล่าว
รายงานข่าวว่า ด้านการทำงานสืบสวนของเจ้าหน้าที่นั้น ขณะนี้ทีมสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ที่คาดว่าคนร้ายอาจจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและทิ้งเสื้อผ้าไว้ในห้องน้ำ รวมทั้งริมทางตามเส้นทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงว่ามีใครพบเห็นคนร้ายขี่จักรยานยนต์ผ่านมาตามเส้นทางหรือไม่
ขณะที่แหล่งข่าวนายตำรวจระดับสูงเปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ตอนนี้ได้ข้อมูล 60-70% แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะทำให้คนร้ายไหวตัว ได้ตั้งศูนย์บัญชาการไล่ล่าระดมกำลังที่ สภ.เมืองลพบุรี โดยมีชุดคอมมานโด 904 ชุดสืบสวนภาค 1 และชุดสืบสวนจังหวัดลพบุรี พร้อมอาวุธครบมือ ไว้คอยไล่ล่าคนร้ายตลอดเวลา
