ช่วงเช้ามืดวันนี้ 12 มกราคม วันแรกของงานเจ้าพ่อพญาแล ชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่า ต่างหลังไหลกันกลับบ้าน เพื่อมาร่วมพิธีบวงสรวง ขอพร ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมแล (แล) หรือเจ้าพ่อพญาแลเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ผู้สร้างเมืองและยอมเสียสละเพื่อปกป้อง รักษาเมืองชัยภูมิ สิ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้คือบายศรีปากชมขนาดต่างๆ ดอกไม้ธูปเทียน บางคนตั้งใจทำมาจากบ้าน แต่บางคนเตรียมไม่ทัน มาใช้บริการที่หน้างานมีชาวบ้านทำมาวางจำหน่าย 50-100 บาท ตามขนาดและความสวยงาม ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตเป็นเวลานานแล้วก็ตาม ชาวชัยภูมิยังระลึกถึงและเชื่อว่าบารมีของท่านสามารถปกปักรักษาและดลบันดาลให้ลูกหลานชาวชัยภูมิรวมทั้งผู้คนที่มาเคารพสักการะให้ประสบผลสำเร็จตามความปรารถนา และในปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 53 ปี นับตั้งแต่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดเฉลิมฉลองอนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล (แล) ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2510
ทั้งนี้ ทุกคนยืนพร้อมกัน บริเวณรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เพื่อทำพิธีบวงสรวง ถวายพานบายศรี และพิธีถวายช้างแด่เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งมีแห่งเดียวในโลก ภายหลังจากนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประธานในพิธี นำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชน ประกอบพิธีบรวงสรวง ตามขั้นตอนแล้ว ได้ร่วมกันถือพานบายศรีแห่รอบอนุสาวรีย์ฯ 3 รอบ ซึ่งบรรยากาศประกอบพิธี เป็นไปด้วยความศรัทธา ทุกคนตั้งใจมาร่วมพิธีกันอย่างมากมาย คาดว่าน่าจะมีจำนวนกว่า 1 หมื่นคน ทำให้บริเวณรอบอนุสาวรีย์คับแคบไปถนัดตา
จากนั้นเป็นพิธีถวายช้างแด่เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งมีแห่งเดียวในโลก เป็นการสืบสานความเชื่อเรื่องช้าง สมัยก่อนเจ้าเมืองต้องใช้ช้างเป็นพาหนะในการเดินทาง และนำขึ้นถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ยามศึกสงคราม ชาวชัยภูมิเคยเป็นที่ตั้งกองช้างหลวง ที่บ้านค่ายหมื่นแผ้ว ช้างจึงเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีความสำคัญ ผู้ที่ถวายช้างแด่เจ้าเมือง ถือว่าเป็นสิริมงคล มีโชคมีลาภ การงานรุ่งเรือง เนื่องจากปัจจุบันไม่สามารถหาช้างตัวจริงมาถวายได้ จึงเปลี่ยนเป็นถวายตะขอแทน เป็นสัญลักษณ์ของการถวาย จังหวัดทำต่อเนื่องมาทุกปี เพื่อนำรายได้ไปใช้ในกิจกรรมสาธารณกุศล สร้างบ้านผู้ยากไร้ ทุนการศึกษาเด็กยากจนแต่เรียนดี เป็นต้น ปีนี้มีประชาชนร่วมถวายช้างจำนวน 3,283 ราย เป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท
