แกนนำ ‘วิ่งไล่ลุง’ ยโสธร เปิดใจ ถูกแจ้งข้อหาไม่แจ้งชุมนุม ซัดถูก จนท.แทรกแซง-คุกคาม

แกนนำ ‘วิ่งไล่ลุง’ ยโสธร เปิดใจ ถูกแจ้งข้อหาไม่แจ้งชุมนุม ซัดถูก จนท.แทรกแซง-คุกคาม

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ สายสีแก้ว อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเพื่อสุขภาพ ที่สวนสาธารณะพญาแถน จ.ยโสธร ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อรับทราบข้อหาฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ ไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมภายในไม่น้อยกว่า 24 ชม. ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 4, 10 และ 28 เบื้องต้นนายชัยวัฒน์ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 3,000 บาท

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายชัยวัฒน์ สายสีแก้ว อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเพื่อสุขภาพ ที่สวนสาธารณะพญาแถน จ.ยโสธร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า การเริ่มดำเนินการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงยโสธร ผู้จัดได้มีการหารือกับ ดร.นพดล ชำนาญค้า ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ซึ่งมีความมั่นใจว่ากิจกรรมการวิ่งออกกำลังกายไม่ได้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ชุมนุมอย่างที่โดนกล่าวหาแต่อย่างใด

หากแต่เป็นการร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพของชาวยโสธร ซึ่งข้อกล่าวหาที่พยายามจะให้ความผิดแก่แกนนำ เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จำเป็นที่จะต้องยอมรับข้อกล่าวหาเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และนอกจากนี้ตนตั้งข้อสังเกต ดังนี้

1.ขอยืนยันสิทธิความชอบธรรมว่าการวิ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์พึงมี

Advertisement

2.การตั้งข้อกล่าวหาผู้ไปร่วมกิจกรรมวิ่ง ชึ่งต้องแจ้งก่อนจัดกิจกรรมตามมาตรา 10 หรือ 12 ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมนั้นเป็นเจตนาจะทำลายขบวนการประชาธิปไตยและแสดงการเป็นศัตรูกับประชาชนอย่างร้ายกาจ และเป็นการบิดกฎหมายอย่างชัดเจนของผู้มีอำนาจ

3.พ.ร.บ.ชุมนุมมาตรา 3 ข้อ (3) ไม่นับว่ากิจกรรมวิ่งเป็นการชุมนุมตาม พ.ร.บ.นี้เพราะเป็น “กีฬา” หมายถึงการวิ่งเป็นกีฬา

4.การจัดวิ่งของกลุ่มเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สงบและไม่กระทบสิทธิใคร ซึ่งหลังจากวิ่งเสร็จทางกลุ่มยังทำความดีด้วยการเก็บขยะ

Advertisement

5.เราถูกเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติแทรกแซง คุกคามหลายอย่างทั้งส่วนตัวและครอบครัว เพื่อห้ามไม่ให้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง แต่นี่เป็นเจตนาบริสุทธิ์ของผู้เข้าร่วมไม่สามารถขัดได้ เพราะตนเชื่อมั่นในสิทธิและอำนาจประชาชน

6.วันจัดกิจกรรม (12/01/63) มีปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อลดทอนจำนวนผู้มาร่วมกิจกรรมของเจ้าหน้าที่โดยการตรวจบัตร, การแชร์ป้ายคล้ายบอกสังคมว่ากิจกรรมถูกยกเลิกและปล่อยข่าวลวงว่าลงทะเบียนรับเสื้อต้องจ่ายเงิน 300-500 บาท ถึงอย่างนั้นก็มีพลังบริสุทธิ์กว่า 250 คน เข้าร่วมกิจกรรม

7.เจ้าหน้าที่ใช้วิธีการสกปรกพยายามสร้างข่าวคุกคามผู้ร่วมกิจกรรมรายอื่นที่จะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน โดยเริ่มปฏิบัติการกับเยาวชนที่ร่วมกิจกรรม

8.ขอประณามปฏิบัติการขัดขวางการจัดกิจกรรมของประชาชนดังกล่าวของเจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจสั่งการในเรื่องดังกล่าว ว่าพวกเขานอกจากจะเนรคุณต่อประชาชน ผู้เสียภาษีให้เป็นเงินเดือนของพวกเขาแล้ว แต่บุคคลเหล่านั้นยังได้พยายามทำลายฝัน ทำลายอนาคตที่ดีของลูกหลาน และประเทศชาติโดยไม่สำนึกถึงผิดชอบชั่วดี และความเสียหายที่จะตามมาในภายหลัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image