เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 มกราคม ที่ สภ.เสม็ด นายนพดล จิระบุตษยะทัศน์ อายุ 63 ปี และแฟนสาว น.ส.อุไรวรรณ หล้าอ้วน อายุ 42 ปี อาชีพเสริมสวย อยู่บ้านเลขที่ 58/132 หมู่ 5 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมนึก มุมทอง สารวัตรเวร สภ.เสม็ดว่า น.ส.ประภัสรา ศรีเชียงสา มาทำผมที่ร้านหลายครั้ง พร้อมทั้งบอกว่าอยากได้รถไว้ใช้งาน น.ส.อุไรวรรณได้ยินดังนั้นจึงบอกว่ามีรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู หมายเลขทะเบียน งค 9557 ชลบุรี จอดอยู่หน้าร้านและต้องการจะขายดาวน์ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี และมีรายจ่ายภายในครอบครัวมากมาย จึงอยากจะลดรายจ่าย จึงได้เสนอขายรถให้ น.ส.ประภัสรา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2562
หลังจากนั้นจึงได้นำรถไปทดลองขับ อ้างว่าชอบใจ พร้อมทั้งบอกว่าจะซื้อดาวน์ และนำรถไปผ่อนเอง และขอยืมทดลองขับอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นได้หายไปเลย จึงได้โทรศัพท์สอบถาม และไลน์ น.ส.ประภัสรา อ้างว่าขอยืมรถไปขับก่อน และจะนำเงินมาจ่ายค่าดาวน์ พร้อมทั้งผ่อนค่างวด ปรากฏว่านานหลายเดือนก็ยังไม่ยอมนำรถมาคืน ต่อมาไม่สามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์และไลน์ จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติ น.ส.ประภัสรา พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และศาลได้รอลงอาญา จึงมั่นใจว่ารถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้คืนแน่นอน จึงได้เดินทางมาแจ้งความดังกล่าว
นายนพดลกล่าวว่า รถกระบะคันดังกล่าวตนซื้อมาในราคา 800,000 บาท ผ่อนเดือนละ 10,776 บาท และผ่อนไปประมาณ 2 ปีแล้ว ช่วงนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไม่ดี จึงอยากลดค่าใช้จ่ายโดยการขายรถกระบะดังกล่าว เมื่อ น.ส.ประภัสรา สนใจ เอารถกระบะไปทดลองขับแล้วเชิดรถไปเลย สัญญาก็ยังไม่ได้ทำ เงินก็ยังไม่ได้ แถมรถถูก น.ส.ประภัสราเอาไปใช้อีก คิดว่าถูกหลอกแน่แล้วจึงได้มาแจ้งความ เพราะอยากได้รถกระบะคืน
พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด กล่าวว่า คดีรถกระบะคันดังกล่าว ยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกัน ต้องตรวจสอบในเรื่องของกฎหมายก่อน เนื่องจากอาจจะมีความผิดฐานยักยอก หรือลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามจะออกหมายเรียก น.ส.ประภัสรา มาสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงเสียก่อน อยากให้ น.ส.ประภัสรามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะหากไม่มาอาจจะต้องออกหมายจับต่อไป