นักวิจัยในสหรัฐคาดไวรัสโคโรนา มี ‘งูเห่า-งูสามเหลี่ยม’ ในจีน เป็นตัวกลางส่งต่อเชื้อจากค้างคาวสู่คน

จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ 2019-nCoV ที่แพร่ระบาดโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม ทางการจีนได้สั่งปิดเมืองหวงกัง เมืองในมลฑลหูเป่ย เป็นเมืองที่สอง เพื่อกักกันโรคไม่ให้แพร่ระบาดไปมากกว่านี้ ล่าสุด ได้สั่งยกเลิกงานฉลองเทศกาลตรุษจีนขนาดใหญ่ และการจัดเทศกาลปีใหม่ที่วัด 2 แห่งในกรุงปักกิ่ง หลังมีผู้ติดเชื้อทั้งในจีน และในต่างประเทศ กว่า 500 ราย รวมทั้ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย อาจเริ่มติดต่อจากสัตว์ป่ามาสู่คน โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น

ศ.กว๋อ ไห่เทา และคณะนักวิจัยด้านจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยข้อมูลข้างต้นในบทความที่ตีพิมพ์ลงเว็บไซต์วิชาการ The Conversation โดยชี้ว่าผลการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และข้อมูลชีวภาพที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดทำโดยนักวิจัยนานาชาติหลายคณะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสจะมาจากงูพิษสายพันธุ์ที่พบในจีนมากที่สุด

ศ.กว๋อ ระบุว่า การติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zootonic transmission) สามารถพบได้ในกรณีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่เคยมีมาในอดีต เช่น เชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) เนื่องจากขณะที่ไวรัสยังอยู่ในร่างกายของสัตว์นั้น ได้เกิดการกลายพันธุ์แบบที่ทำให้เข้าอยู่อาศัย และเพิ่มจำนวนขึ้นในร่างกายของมนุษย์ได้ แม้ว่าต้นตอการติดเชื้อจากสัตว์สู่คนของโรคซาร์ส และโรคเมอร์ส จะมาจากค้างคาวทั้งคู่ โดยมีอีเห็น และอูฐเป็นตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อโรคจากค้างคาวมายังมนุษย์อีกทอดหนึ่ง แต่ในกรณีของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกๆ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล คือคนงาน และลูกค้าของตลาดสดขายส่งอาหารทะเลเมืองอู่ฮั่น ซึ่งจำหน่ายทั้งสัตว์น้ำ ปศุสัตว์ และสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทำให้ยากที่จะสืบทราบได้ว่าเชื้อมาจากสัตว์ชนิดใดกันแน่

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัยในจีน ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร Journal of Medical Virology โดยชี้ว่าการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019-nCoV แสดงถึงความใกล้ชิดทางพันธุกรรมกับไวรัสโรคซาร์ส และโรคเมอร์ส ที่มาจากค้างคาวมากที่สุด ทั้งยังพบว่ารหัสพันธุกรรมของส่วนหนามบนตัวไวรัส ซึ่งทำหน้าที่จับกับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่มันเข้าไปอาศัยอยู่นั้น เกิดการกลายพันธุ์ขณะที่อยู่ในตัวค้างคาว ก่อนจะติดต่อสู่สัตว์ชนิดอื่น และมนุษย์ต่อไป

Advertisement

การกลายพันธุ์ของตัวรับ (receptor) บนส่วนหนามของไวรัสดังกล่าว พบว่า มีความคล้ายคลึงกับการกลายพันธุ์ของหนามไวรัสโคโรนาที่พบในงู มากกว่าที่พบในสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงูเห่าจีน และงูสามเหลี่ยมจีน ซึ่งมีจำหน่ายในตลาดสดขายส่งอาหารทะเลของเมืองอู่ฮั่นด้วย

ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งูอาจเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่างูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ ล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตัวให้อยู่อาศัย และขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็น และสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร

ศ.กว๋อ ระบุว่า ยังจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อยืนยันถึงต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้แน่นอนกว่านี้ แต่อาจจะทำได้ยาก เพราะตลาดสดที่คาดว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อในตอนแรกนั้น ถูกปิด และล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

Advertisement

ขอบคุณข้อมูล ข่าวสด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image