อสส.สั่งอัยการพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเยียวยาเหยื่อ ‘จ่าคลั่ง’ เผยข้อมูลชันสูตรพบคนตายรอบศพคนร้าย 7 ศพ

อสส.สั่งตั้งคณะทำงานช่วยเหลือประชาชน เยียวยาเหยื่อ ‘จ่าคลั่ง’ รองโฆษกอัยการเผยสั่งเตรียมพร้อมทีมงานตั้งเเต่เกิดเหตุรายงานผลตลอด ล่าสุดได้รับเเจ้งจากทีมงานอัยการร่วมชันสูตร พบศพประชาชนอยู่ใกล้ศพคนร้ายอีก 7 ศพ

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนเเละเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมใช้อาวุธปืนยิงถังแก๊สนอกตัวห้าง และยิงผู้บริสุทธิ์อย่างบ้าคลั่ง จนภายหลังมีการควบคุมสถานการณ์วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายได้ในช่วงเช้าวันนี้ ว่า ทางนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้รู้สึกเสียใจและห่วงใยเรื่องนี้อย่างยิ่ง โดยหลังจากที่ทราบเหตุการณ์เมื่อวาน อัยการสูงสุดโดยได้ติดตามเหตุอย่างใกล้ชิดก็ได้มีคำสั่งในทันทีให้สำนักงานอธิบดีอัยการภาค 3 โดยนายชัยชนะ พันธุ์ภักดีดิสกุล รองอธิบดีอัยการภาค 3, นางอำไพ ศุกระชาต อัยการจังหวัดนครราชสีมา, นายพศุตม์ แวววุฒินันท์ อัยการจังหวัดประจำ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นเวรชันสูตรพลิกศพ เเละอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนครราชสีมา (สคช.) ร่วมกันปฏิบัติงานประจำพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 3 ตั้งเเต่เกิดเหตุเมื่อวานเพื่อเตรียมเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทันทีหากได้รับเเจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่คุมสถานการณ์ โดยได้รายงานให้อัยการสูงสุดที่ติดตามเหตุการณ์อยู่ทราบเป็นระยะ จนในช่วงเวลา 08.00 น.เศษ ทีมงานที่นำโดยนายชัยชนะ รอง อธ.อัยการภาค 3 ก็ได้รับเเจ้งให้เข้าไปในพื้นที่ได้ ภายหลังที่มีการวิสามัญคนร้ายทันที เเต่ขณะนั้นยังไม่สามารถเข้าทำการชันสูตรได้เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าเคลียร์ เนื่องจากอาจจะมีระเบิด โดยระหว่างนั้นนายชัยชนะ หัวหน้าทีมอัยการที่เข้าพื้นที่ได้พบมารดาของผู้ก่อเหตุ เเละน้องสาว ที่เป็นพยาบาลทหารยศร้อยเอก ซึ่งทางทีมอัยการก็ได้อธิบายข้อกฎหมายให้ได้รับทราบในส่วนที่ทีมชันสูตรจะต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับรู้ขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่ด้วย รวมถึงศพของประชาชนอื่นๆ

นอกจากนี้ทางอัยการสูงสุดได้สั่งการให้สำนักงานอัยการสูงสุดภาค 3 ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือดูแลในส่วนผู้เสียชีวิตเเละบาดเจ็บให้ได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายที่จะได้จากรัฐอย่างไรบ้าง รวมถึงสิทธิการจัดการมรดกให้กับคนเสียชีวิตทุกราย เเละให้รายงานอัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ โดยทางสำนักงานอัยการภาค 3 ก็รับทราบคำสั่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่

“ทางทีมอัยการภาค 3 เตรียมพร้อมตั้งเเต่เมื่อคืนวานที่ได้ทราบเหตุจนถึงตอนเช้า เมื่อทราบว่ามีการวิสามัญก็เข้าไปในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเมื่อช่วง 09.00 น.เศษ หลังทีมชันสูตรพลิกศพเข้าพื้นที่ก็รายงานด่วนเข้ามาว่าในพื้นที่ที่พบศพคนร้าย ยังมีศพประชาชนในบริเวณเดียวกันทั้งหมดอีก 7 ศพ รวมคนร้ายเป็น 8 ศพ” นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยข้อมูล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image