นายกัณห์ กุลอัฐภิญญา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทย เปิดเผยว่า ในปี 2563 จะเป็นปีที่บริษัทฯ จะรุกหนักสร้างแบรนด์ถุงยางอนามัย ONETOUCH ในโอกาสครบรอบ 20 ปี พร้อมทั้งสื่อสารจุดเด่นของแบรนด์ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการของผู้บริโภค กระบวนการผลิตที่ทันสมัยและราคาสินค้าที่คุ้มค่าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกระดับ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดถุงยางอนามัยแบรนด์ ONETOUCH ในประเทศไทยทั้งในส่วนของมูลค่าและปริมาณ ต่อยอดกลยุทธ์หลักในการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความชัดเจนภายใต้สโลแกน “Enjoy The Best In You” ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่ม Millennials
นายกัณห์ กล่าวว่า ยอดขายในปี 2559-2561 ได้เพิ่มขึ้นจาก 89.1 ล้านบาท เป็น 128.55 ล้านบาท โดยปี 2561 บริษัทฯใช้กลยุทธ์สื่อสารภาพลักษณ์และจัดกิจกรรมการตลาดในรูปแบบ Music Marketing ภายใต้คอนเซปต์ ‘ชีวิตที่มีความหมาย คือการได้สัมผัสสิ่งที่รัก’ ต่อด้วยปี 2562 จัดแคมเปญ “ปฏิบัติการต่อเวลารัก” พร้อมเปิดตัวถุงยางอนามัย ONETOUCH รุ่น มิกซ์ 3 พลัส และ ONETOUCH Solution ที่ผสมสารเบนโซเคนเพื่อลดความรู้สึกที่ไวต่อการสัมผัส รวมถึงเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทางสื่อออนไลน์ (คลิปวีดิโอ) ที่มีวิธีเล่าเรื่องในแบบฉบับหนังตัวอย่างสไตล์ซีรีส์เกาหลี และเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ONETOUCH 2019 Collection ที่ผลิตจำนวนจำกัด จุดเด่นคือการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นฟอยล์ทรงกลมบรรจุในกระป๋องพลาสติกทรงกลมเพื่อสร้างความแตกต่างและร่วมมือกับดีไซเนอร์นักวาดการ์ตูนชั้นนำออกแบบลวดลายบนแพ็กเกจจิ้ง
นายกัณห์ กล่าวว่า ปีนี้ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ ‘All What You Want’ (ตอบสนองทุกสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ) เพื่อสื่อสารถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่เป็นคลิปวีดิโอ 3 เรื่อง มีเนื้อหาแตกต่างกัน เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน รวมถึงจัดกิจกรรมเชิญคู่ค้า เซเลบริตี้ เน็ตไอดอล และแขกรับเชิญร่วมงานปาร์ตี้ โดยมีไฮไลต์เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวและแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ และในโอกาสครบ 20 ปี ONETOUCH มีแผนจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งวางแผนเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดในประเทศเพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดถุงยางอนามัยในไทย รวมถึงเพิ่มยอดขายสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV
