‘ททท.’ จับมือ ‘ก.ท่องเที่ยว’ ผนึก ‘ก.คลัง’ เล็งชงครม. อัดแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยวล็อตใหม่

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดการประชุมหารือระหว่างภาครัฐ เอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว โดยได้ชุดมาตรการต่างๆ ที่ผู้เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยวทั้งหมดต้องการ ซึ่งได้แบ่งชุดมาตรการออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2.ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย 3.สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและชาวต่างชาติ อาทิ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ความปลอดภัย ภาวะเศรษฐกิจ 4.การเยียวยาจากสภาวะวิกฤตในปัจจุบันและที่จะมีผลต่ออนาคต ซึ่งจะนำข้อเสนอแนะทั้งหมดมาจัดรวมเป็นชุดความคิด เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

“ในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารพาณิชย์ โดยเชื่อว่าจะมีมาตรการทางด้านการเงินและการคลัง ออกมาเพิ่มเติมอีก 1 ชุด ซึ่งจะครอบคลุมทั้งหมดได้ ส่วนในลำดับต่อไปททท. กระทรวงการท่องที่ยวฯ และกระทรวงการคลัง จะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อศึกษามาตรการที่จะออกมา และนำเสนอครม.ต่อไป” นายยุทธศักดิ์กล่าว

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นมาตรการที่จะออกมา คาดเป็น 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการ เน้นเรื่องการเสริมสภาพคล่อง การพยุงการจ้างงาน 2.การสร้างความเชื่อมั่นและการกระตุ้นตลาดทั้งตลาดในและต่างประเทศ 3.การปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว มาตรการรับมือกับโรคระบาด เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ภาคการท่องเที่ยวไทย อาทิ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย แก้ปัญหาการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและความสะอาด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในมาตรการระยะยาวที่จะพัฒนาต่อไป ในขณะเดียวกันก็จะพัฒนาบุคลากรในภาคการท่องเที่ยว ด้วยเพิ่มทักษะและฝึกฝนในเชิงปฎิบัติมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นก็น่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นกัน

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมดไม่น่าจะล่าช้า เนื่องจากหากมีอะไรทำได้ก็ทำทันทีอยู่แล้ว อาทิ มาตรการกระตุ้นตลาดบางตลาด ที่หากสามารถเข้าไปกระตุ้นได้ก็เข้าไปทันที แต่ในบางตลาด ไม่ใช่ว่าททท.ไม่ต้องการเข้าไปกระตุ้น แต่มีข้อจำกัดในเรื่องความรู้สึกของคนที่ไม่อยากออกเดินทาง หรือข้อแม้ต่างๆ ทำให้เมื่อสถานการณ์และความเข้าใจต่างๆ คลายตัวมากขึ้น คนก็จะออกเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดไทยเที่ยวไทย เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงปิดเทอมแล้ว ผู้ปกครองจะนิยมพาบุตรหลานเดินทางเที่ยวพร้อมกันในครอบครัว

Advertisement

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า กรณีผู้โดยสารจากเรือสำราญเวสเตอร์ดัม ที่ทยอยเดินทางเข้ามายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านจากสนามบินพนมเปญ เข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ ล่าสุดมีผู้โดยสารเข้ามาในไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 12 รายนั้น เบื้องต้นมองว่าแต่ละประเทศจะต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ ที่แตกต่างกันไป โดยการเฝ้าระวังสูงๆ หากเจอการติดเชื้อก็แสดงว่า มาตรการเฝ้าระวังได้ผล และเชื่อว่าพบผู้ติดเชื้อในขณะที่อยู่ในประเทศ ดีกว่าออกนอกประเทศไปแล้ว เพราะจะทำให้การคสบคุมทำได้ยาก เนื่องจากไม่รู้ว่าผู้ติดเชื้อดังกล่าวไปที่ใดมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการการเฝ้าระวัง และขีดความสามารถในด้านสาธารณสุขของไทย เชื่อว่ายังไม่น่าเป็นกังวลมากนัก แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image