หลอน!! ชาวบ้านผวาเสียงหมาหอนจุดจ่าคลั่งยิงดับ 9 ศพหลังวัดป่าฯ ทุกคืน แม้แต่พระยังไม่กล้าเดินผ่าน (คลิป)

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ประตูด้านหลังวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณจุดที่พบร่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชน ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเสียชีวิตรวม 9 ศพ ก่อนจะขับรถยนต์ไปก่อเหตุที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบนางอรทัย ไชยคำ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองปรือ หมู่ 1 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กำลังทำความสะอาดเสาประตูวัด โดยเก็บช่อดอกไม้ที่มีประชาชนนำวางแสดงความไว้อาลัย และบางรายจุดธูปเทียนไหว้ผู้เสียชีวิต จึงต้องหมั่นดับ เพื่อป้องกันไฟไหม้ เนื่องจากในละแวกดังกล่าวมีวัชพืชขึ้นรกชัน ส่วนเสาอนุสรณ์สถานที่เก็บอัฐิผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพ ทีมช่างได้มาต่อเติมทำหลังคามุง ท่ามกลางความวังเวง แม้มียานพาหนะแล่นผ่าน ส่วนใหญ่จะไม่ชะลอความเร็วทั้งๆ ที่เป็นทางโค้ง

นางนุกสรา จันทร์วิเศษ กำนันตำบลโพธิ์กลาง เปิดเผยว่า ย้อนรอยเมื่อปี 2526 บริเวณละแวกที่เกิดเหตุ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพภาคที่ 2 ประสบอุบัติทางการบิน เป็นเหตุให้นายทหาร และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสียชีวิตรวม 11 ศพ ชาวบ้านได้ตั้งชื่อซอย ฮ.ตก นอกจากนี้ ยังมีสุสานของชาวจีนฮากกา และไทยมุสลิม ตั้งอยู่รอบชุมชนที่มีบ้านเรือนตั้งล้อมรอบกว่า 1,000 ครัวเรือน หลังเกิดเหตุอาคารโรงแรมรอยัลพลาซ่าโคราชพังถล่มเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536 มีผู้เสียชีวิต 137 ศพ ผู้รับเหมาได้นำเศษดินมาถมพื้นที่บริเวณหลังวัด แต่ชาวบ้านสามารถดำรงชีวิตปกติสุข แต่หลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงปะทะซึ่งมีเสียงปืนดังขึ้นหลายร้อยนัดร่วม 1 ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญ จุดพบร่างเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนทางสามแพร่ง และห่างออกไป 10 เมตร เป็นร่างนักเรียนชาย และเภสัชกรหญิงที่เสียชีวิตอยู่บนทางสามแพร่งอีก ช่วงเช้าพระสงฆ์ได้เปลี่ยนเส้นทางเดินบิณฑบาต ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุเป็นเขตรอยต่อระหว่าง ต.หัวทะเล กับ ต.โพธิ์กลาง อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาติดไฟส่องสว่าง และตัดต้นไม้ที่รกอึมครึม จะทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
 

Advertisement

เพิ่มเพื่อน
ด้านนางอรทัย กล่าวว่า ช่วงพลบค่ำ จะเสียงสุนัขเห่าหอนรับต่อกันเป็นทอดๆ พร้อมเสียงนกแสกบินไปมาตลอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ยินเสียง บริเวณดังกล่าวเป็นถนนเลียบกำแพงวัด เส้นทางสัญจรหลักระหว่างชุมชนสู่ถนนใหญ่ แต่ยานพาหนะจะเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน ร้านขายของชำ และร้านอาหารตามสั่ง เคยปิดหลัง 23.00 น.ผู้คนเงียบหายไม่ออกมา ยานพาหนะไม่แล่นผ่าน จึงต้องรีบปิดในเวลาไม่ถึง 20.00 น.

“ฝากถึงผู้ที่มาแสดงความไว้อาลัย ให้นำช่อดอกไม้มาวาง และเขียนข้อความบนกระดานที่แขวนไว้บนรั้วประตูวัดก็น่าจะพอ ไม่ควรนำธูปเทียนมาจุด ทำให้เกิดประสาทหลอน เหมือนจุดเรียกวิญญาณ และเทียนอาจล้มไปถูกวัชพืช ทำให้เกิดเพลิงไหม้หญ้าแห้งได้ สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวสิ่งเร้นลับมาก ขอให้หน่วยงานดูแสสุขภาพจิตมาช่วยบำบัดอาการทางจิตด้วย ขณะนี้มีลูกบ้านยังนอนไม่ค่อยหลับหลายราย” นางอรทัย กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image