‘ซาบีน่า’ โชว์ผลงานปี 62 ดีงามเกินคาด บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.62 บาท/หุ้น

กรุงเทพฯ 24 กุมภาพันธ์ 2563 : ซาบีน่าเผยผลประกอบการปี 2562 รายได้จากการขาย 3,279.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 413.2 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 คิดเป็น 14.3% โดยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.4%

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ถือว่าดีเกินกว่าที่บริษัทคาดไว้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง คณะกรรมการบริษัท จึงมีมติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.62 บาทต่อหุ้น รวมกับการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกในอัตรา 0.57 บาทต่อหุ้น รวมเป็นอัตราปันผล 1.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 100% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ บริษัทจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 8 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

นายบุญชัย กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2562 ที่ออกมาดีเกินกว่าคาดว่า เพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนซึ่งมาจากการวางกลยุทธการตลาด ที่เน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์หรือ Non Store Retailing (NSR) ทำให้ในปี 2562 ยอดขายในช่องทางนี้เติบโตขึ้น 32.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา “ช่วงปลายปีที่แล้ว มีการจัดอันดับสินค้าขายดีในโลกออนไลน์จากไพร์ซซ่า ปรากฏว่าสินค้าขายดีอันดับหนึ่งเป็นสินค้ากลุ่มแฟชั่น และในสินค้ากลุ่มดังกล่าว พบว่าชุดชั้นในเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด โดยชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงที่มีบิ๊กแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ ทั้ง 11.11 และ 12.12 สะท้อนว่ากลยุทธ์การทำตลาดผ่านช่องทางขายของซาบีน่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หรือในส่วนของช่องทางรีเทลในปีที่ผ่านมามีการเติบโต 3.7% นั้น ซาบีน่าใช้วิธีโฟกัสจุดขายที่ชัดเจน โดยเปิดช็อปเพิ่ม 2 แห่งที่เซ็นทรัล วิลเลจ และสามย่าน มิตรทาวน์ ปรากฏว่าเป็นจุดขายที่มีกำลังซื้อชัดเจน ยอดขายของทั้งสองสาขาน่าพอใจเป็นอย่างมาก”

นายบุญชัยกล่าวว่า เช่นเดียวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งปีที่แล้วบริษัทได้ออกคอลเล็กชั่น “บอดี้ บรา” เป็นบราเกาะอก โดยดึง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” มาเป็นพรีเซนเตอร์ ทำให้สินค้าดังกล่าวกลายเป็นสินค้าไฮไลต์ของปีที่ไม่ได้สร้างยอดเฉพาะในประเทศไทย แต่ยังทำยอดขายในช่องการส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะที่เวียดนามเติบโตได้ 25.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนอีกช่องทางขายผ่านการรับผลิต (OEM) ให้กับลูกค้าในยุโรปนั้น ยังคงอยู่ในทิศทางทรงตัวโดยมีการเติบโต 0.1%

Advertisement

นายบุญชัยกล่าวว่า การเติบโตในช่องทางออนไลน์ ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนขาย รวมถึงการบริหารจัดการสินค้าในสต็อกได้มีประสิทธิภาพขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทยังควบคุมต้นทุนด้านการผลิต โดยยังคงจ้างผลิตสินค้าจากโรงงานในประเทศจีนในสัดส่วน 37% และผลิตเองในสัดส่วน 63% ซึ่งนอกจากต้นทุนการผลิตลดลงแล้ว บริษัทยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นมาอยู่ที่ 54.4% สำหรับกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ในประเทศจีนนั้น ยังไม่มีผลกระทบกับการผลิตแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ซาบีน่าได้เริ่มจ้างผลิตจากโรงงานในประเทศเวียดนาม เป็นการกระจายความเสี่ยงและเพื่อเป็นฐานในการเพิ่มยอดขายในเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงอีกด้วย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image