‘แม่ทองสุก’ ยันได้เห็นราคาทองคำแตะ 27,500 บาทกลางปี 63 หากโควิด-19 ยังไม่ไปไหน

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่งผลกระทบและสร้างความกังวลทั่วโลก ทำให้ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยแนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ 2563 มองว่ายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการทำสถิติสูงสูดในรอบ 7 ปี ไปแล้วก็ตาม ซึ่งราคาทองคำมีกรอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,700-1,750 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความกังวลของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่ยังมีความผันผวน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ โดยเบื้องต้นมองว่า มีโอกาสเห็นราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นถึง 27,000-2,7500 บาทต่อบาททองคำ ในช่วงกลางปี 2563 หากสถานการณ์โรคระบาดยังไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงประเมินกรอบค่าเงินบาทอ่อนค่าในปี 2563 ไว้ที่ 32-32.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

“ขณะนี้ประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา จะสามารถควบคุมได้ภายในเดือนกรกฏาคม 2563 หรือในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 นี้ แต่หากยังไม่สามารถจบได้ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นได้อีก โดยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในขณะนี้นั้น อาจกลายเป็นตัวจุดประกายให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่เป็นน้องๆ วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 หรือ ต้นยำกุ้ง และวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ หรือ แฮมเบอเกอร์ โดยเบื้องต้นตอนนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นที่ยุโรปก่อนอันดับแรก เพราะขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจในยุโรปไม่ค่อยดีมากนักอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีปัจจัยเร้าเข้าไปกระทบ ทำให้โรคระบาดดังกล่าว หากไปแพร่เชื้อไปในยุโรป ก็จะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดวิกฤตขึ้นได้”

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า จากปัจจัยความกังวลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่งผลทำให้ความต้องการในสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับลดลงแย่หมด เนื่องจากความต้องการลดลง อาทิ ราคาน้ำมัน ทองแดง เหล็ก ยาง ในต่างชาติลดลงมาก แต่ในประเทศดูลดลงน้อยเนื่องจากมีค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเข้ามาช่วยสนับสนุนไว้ ทำให้ราคาทองคำเป็นสินทรัพย์เดียว ที่ปรับตัวขึ้น เพราะมีความปลอดภัย และความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่น สะท้อนได้จากในช่วงต้นปี 2563 จะเห็นว่าราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นมาแล้วกว่า 10% ขณะที่ราคาทองคำในประเทศก็ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 19.37% ซึ่งที่ผ่านมา หากเกิดโรคระบาดหนักๆ ราคาทองคำจะปรับขึ้นประมาณ 15-20% และหากสถานการณ์คลายตัว ก็จะอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ประมาณ 5-8% แต่ไม่ได้ปรับลดลงมากเท่าที่ปรับขึ้น ซึ่งถือเป็นการปรับฐานใหม่ต่อไป

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัว “MTS Gold Blockchain” ระบบสะสมเงินซื้อทองคำแท่ง 96.5% ในรูปแบบออนไลน์ เป็นรายแรกที่นำระบบบล็อกเชนมาใช้ในการออมทอง และการจัดเก็บข้อมูลโดยไม่ผ่านบุคคลที่สาม เพื่อป้องกันความเสียหายด้านข้อมูล ซึ่งเป็นธุรกรรมที่มีความปลอดภัยสูงเทียบเท่ามาตรฐานธนาคารชั้นนำของไทย โดยนักลงทุนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 150 บาท หรือเริ่มต้นได้ด้วยน้ำหนัก 0.1 กรัม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยการใช้ราคาแบบเรียลไทม์ และสามารถโอนทองคำให้แก่กันได้ภายใต้ระบบเดียวกัน

Advertisement

นายณัฐพงศ์กล่าวต่อว่า หากสะสมครบตามจำนวนที่ต้องการ สามารถแลกรับเป็นทองคำในรูปแบบทองคำแท่งจริงได้ตั้งแต่ขั้นต่ำ 1 กรัม โดยภายในปี 2563 ตั้งเป้าจะมียอดเปิดบัญชีออมทองกว่า 10,000 บัญชี และบัญชีเคลื่อนไหวที่ 30%รวมถึงยังมีแผนจะขยายไปยังตลาดโลหะลอนดอน (London Metal Exchange) ซึ่งมีความโดดเด่นในสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะ เพื่อเพิ่มตลาดการลงทุนให้มีความหลากหลายมากขึ้น

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image