นางสาวสุวารินทร์ ก้อนทอง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในรูปแบบการรับจ้างพัฒนาและผลิต ที่ให้บริการแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 797.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.38 ล้านบาท หรือ เติบโต 18.48% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 673.12 ล้านบาท โดยผลประกอบการที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 2562 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง และกลุ่มธุรกิจเครือข่าย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เพื่อต้องการให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนครอบคลุมทั้งในตลาดด้านสุขภาพและความงาม
“บริษัทได้มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาทต่อหุ้น สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2562 คิดเป็น 81.11% ของกำไรสุทธิ โดยการจ่ายเงินปันผลบริษัทฯเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และเพื่อสิทธิรับเงินปันผล ณ วันที่ 16 มี.ค. 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค. 2563” นางสาวสุวารินทร์กล่าว
นางสาวสุวารินทร์กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของบริษัทในปี 2563 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดสั่งผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 80%) ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ภายใต้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด อาทิ One Whey (เวย์โปรตีน) , Levarean ( เลวารีน ), Prepo Fiber and Detox (เพรโป) โดยปี 2563 ถือเป็นปีทองแห่งการเก็บเกี่ยวของ “อัลทิมา ไลฟ์” หลังจากในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ได้มีการลงทุนทางการตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์ดิ้งให้บริษัทเป็นที่รู้จัก จึงมีคนรู้จักมากขึ้น โดยเห็นได้จากยอดสมาชิกในปัจจุบันอยู่ที่ 40,827 ราย และในปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 120,000 ราย ขณะที่ยอดขายในปีนี้ อัลทิมา ไลฟ์ ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 600 ล้านบาท
นางสาวสุวารินทร์กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทมีออเดอร์ใหม่เข้ามาในไตรมาส 1/2563 มูลค่ารวมกว่า 320 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ อัลทิมา ไลฟ์ 130 ล้านบาท และเป็นรายได้จาก บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ แบบครบวงจร ซึ่งเป็นการลงทุนผ่าน บริษัท ดีโอดี เฮ้ลท์ตี้ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 99.99%) ประมาณ 20 ล้านบาท
นางสาวสุวารินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 2563 มองว่า ธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะสามารถกลับมาสร้างความโดดเด่นได้อีกครั้ง เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย ที่มีการลงทุนไปในช่วงปี 2562 ซึ่งจะสอดคล้องกับกลยุทธ์พัฒนาการให้บริการในรูปแบบ One Stop Service Solution ที่จะนำไป สู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร ในระดับภูมิภาคเอเชีย (Regional) และไปสู่ระดับโลก (Global) ในอนาคต