‘ดีอีเอส’ กำชับมาตรการสกัด ‘โควิค-19 ในเส้นทางไปรษณีย์ (ชมคลิป)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)​ เปิดเผยถึงมาตรการหลักเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ในเส้นทางขนส่ง-โลจิสติกส์​ ว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลกและมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ หนึ่งแสนคน ซึ่งประเทศไทยเองก็มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 43 คน เสียชีวิต 1 คน และองค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) ได้ประกาศให้เป็นภัยฉุกเฉินสากล ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้มีมาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอส ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)​ ได้เล็งเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทย และตระหนักถึงความสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จึงได้กำชับให้การปฏิบัติงานในทุกขั้นตอนของไปรษณีย์ไทย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าทั้งใน และระหว่างประเทศมีมาตรการป้องกัน ติดตาม และเฝ้าระวังอย่างรัดกุม เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยอย่างสูงสุด ตลอดจนเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่ช่วยประชาสัมพันธ์มาตรการและแนวทางป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสดังกล่าว และลดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจปะปนมากับเส้นทางขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)​

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดีอีเอส และเป็นหน่วยงานที่ให้บริการหลักในด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ที่มีเครือข่ายครอบคลุม เข้าถึงทุกครัวเรือนของไทย และเป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับคนไทยมาอย่างยาวนาน ขานรับนโยบายของรัฐบาลพร้อมออกมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการแก่ลูกค้าขั้นสูงสุด ดังนี้

• ด้านการให้บริการลูกค้า จัดให้มีบริการเจลทำความสะอาดมือสำหรับผู้ใช้บริการทุกที่ทำการไปรษณีย์

Advertisement

• ด้านที่ทำการไปรษณีย์ ยกระดับมาตรการด้านอาชีวอนามัย โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุกครึ่งชั่วโมงของที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงร้านไปรษณีย์และเครือข่ายของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดที่ให้บริการลูกค้า อาทิ มือจับประตู จุดกดบัตรคิว เก้าอี้ เคาน์เตอร์ให้บริการ

• ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ ไปรษณีย์ไทยได้ให้ความรู้/ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดลูกค้า มีมาตรการสั่งห้ามบุคลากรเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยง อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นต้น พร้อมแนะวิธีการป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าว ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือเป็นประจำขณะให้บริการหรือปฏิบัติหน้าที่ สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและหากตรวจพบให้รีบพบแพทย์ทันที รวมไปถึงการงดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่นและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เป็นต้น

• ด้านศูนย์ไปรษณีย์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้น ภายในศูนย์ไปรษณีย์ 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (อีเอ็มเอส) และศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ ซึ่งถือเป็นศูนย์ไปรษณีย์หลักในการคัดแยกไปรษณียภัณฑ์ขาเข้าจากต่างประเทศของไปรษณีย์ไทยก่อนกระจายส่งพัสดุไปยังประชาชน

Advertisement

• ด้านการกระจายเจลแอลกอฮอล์ ด้วยศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายรวมกว่า 10,000 แห่ง ได้ร่วมกับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เตรียมวางจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือในที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นในราคาที่เป็นธรรม

นายก่อกิจ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ได้จัดเตรียมแผนการรับมือการระบาดสู่ระยะที่ 3 หากมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขยกระดับการแพร่ระบาดภายในประเทศที่ติดเชื้อในคนสู่คนจากการสัมผัสแบบใกล้ชิด ดังนี้ ด้านผู้ใช้บริการ เนื่องด้วยประชาชนจำเป็นต้องงดการออกจากเคหะสถาน ไปรษณีย์ไทยพร้อมทำหน้าที่ในการส่งสินค้าอุปโภค บริโภคให้กับผู้ใช้บริการถึงบ้าน ด้านที่ทำการไปรษณีย์ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการที่มีความเสี่ยงมาใช้บริการ จะทำการปิดที่ทำการไปรษณีย์เพื่อทำความสะอาด พ่น อบ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสก่อนแล้วจึงเปิดให้บริการอีกครั้ง และในส่วนของร้านไปรษณีย์ ได้กำกับให้รายงานเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือร้านไปรษณีย์ไทย และเครือข่ายไปรษณีย์ไทยทั่ว��ปร��ะเทศ ปฏิบัติตามมาตรการเดียวกันกับ ไปรษณีย์ไทยที่ดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งไปรษณีย์ไทยมีแผนรองรับการจัดการงานที่คงค้าง ทั้งงานรับฝาก ส่งต่อ นำจ่าย ไม่ให้ล่าช้าหรือเสียหาย ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่ในที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ รวมถึงเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีความเสี่ยง มีมาตรการให้หยุดงานทันที และจะรายงานอาการของพนักงานโดยไม่มีการปกปิดด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมจะจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมมาปฏิบัติงานแทนเพื่อให้การทำงานไม่หยุดชะงัก

ทั้งนี้ การขนส่งสิ่งของไปยังปลายทางประเทศที่มีผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 คือ ปลายทางเมืองอู่ฮั่น และเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ปลายทางบางพื้นที่ในประเทศอิตาลี ขณะนี้ได้ปิดให้บริการรับฝากสิ่งของเป็นการชั่วคราว และการฝากส่งสิ่งของไปยังปลายทางประเทศมองโกเลีย รับฝากส่งด้วยบริการคูเรียร์โพสต์เท่านั้น

“ไปรษณีย์ไทย เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนไทยให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติ ในฐานะหน่วยงานด้านการขนส่ง โลจิสติกส์เบอร์หนึ่งของไทย เพื่อสร้างความมั่นใจและร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย” นายก่อกิจ กล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image