นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากได้ประชุมร่วมกับสายการบินพาณิชย์ทั้ง 17 สาย ในวันที่ 4 มีนาคม 2563 ในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) เพื่อหามาตรการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยล่าสุดได้หารือร่วมกับบริษัท บินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด เนื่องจาก 2 สายการบินดังกล่าวยังไม่ได้เสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 พร้อมสายการบินพาณิชย์อื่นๆ อีก 17 แห่ง ซึ่งเบื้องต้นการบินไทยได้ขอการสนับสนุนจากภาครัฐในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะทำให้มีรายได้ลดลง โดยได้จัดทำข้อมูลในการเสนอร่วมกับแผนฟื้นฟูองค์กรให้กลับมาดีเหมือนในอดีต ซึ่งการบินไทยได้เสนอขอการกู้เงินเสริมสภาพคล่อง โดยขอให้รัฐบาลช่วยค้ำประกันให้ซึ่งต้องการให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด เนื่องจากรายรับของการบินไทยน้อยกว่าประมาณการณ์รายได้ แต่การบินไทยยังยืนยันว่า บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพออยู่ได้อีกหลายเดือน แต่ตัวเลขรายได้ที่ออกมาติดลบ
“ที่ประชุมยังไม่มีการอนุมัติให้ตามที่การบินไทยเสนอมา เนื่องจากรายละเอียดของข้อมูลในภาพรวมยังไม่ชัดเจนมากพอ จึงสั่งการให้กลับไปจัดทำแผนรายละเอียดให้ชัดเจนใหม่อีกครั้ง โดยข้อมูลที่การบินไทยนำเสนอมานั้น เป็นมาตรการขอความช่วยเหลือในภาพรวม ทั้งในส่วนของแผนฟื้นฟูองค์กรและผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขและข้อมูลที่นำเสนอยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนมากเพียงพอ อาทิ การบินไทยมีต้นทุนเดือนละ 13,000 ล้านบาท แต่ต้นทุนเท่ากันทั้งหมด ทั้งที่มีการหยุดบินไปแล้วในบางเส้นทาง ซึ่งปกติเมื่อมีการปรับลดเที่ยวบินค่าใช้จ่ายก็น่าจะปรับลดลงไปด้วย ซึ่งการบินไทยกำลังดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ซึ่งก็ต้องดูว่าบริษัทได้ดำเนินการช่วยเหลือตัวเอง 100% แล้วหรือยัง โดยข้อมูลของการบินไทยแตกต่างกับมาตรการขอความช่วยเหลือของสายการบิน 17 แห่ง ซึ่งมีการบอกกำหนดการชัดเจนว่า หากได้รับการช่วยเหลือ จะสามารถฟื้นฟูได้ภายใน 1 ปี 6 เดือน ทำให้มองว่าข้อมูลที่ทำมายังไม่เพียงพอ และหากนำข้อมูลดังกล่าวไปเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็คงจะไม่ผ่านการพิจารณา” นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายพีระพลถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รวมถึงนายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมหารือเพื่อหาข้อสรุปมาตรการบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 ของการบินไทยให้ชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์ ว่าการบินไทยได้รับผลกระทบอย่างไร และต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือด้านใดบ้าง เป็นระยะเวลาเท่าใด ซึ่งจากการหารือก็ได้ข้อมูลมาว่า ทุกไฟลท์บินของการบินไทย ยังยังมีกำไรอยู่ แต่กำไรที่ว่าเป็นส่วนของรายได้อื่นๆ ไม่ใช่รายได้จากต้นทุนที่มีความคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่มีเรื่องค่าเสื่อมราคาบวกเข้ามาด้วย จึงได้ให้กลับไปทำแผนมาใหม่และแยกออกจากัน ส่วนของมาตรการเยียวยาโควิด-19 และส่วนของการจะทำให้การบินไทยกลับมามีความสามารถในการแข่งขันเรื่องการบินระหว่างประเทศ โดยเรื่องข้อเรียกร้องมาตรการเยียวยาของการบินไทย กระทรวงฯ คงไม่สามารถเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ พิจารณาได้ทันในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) แต่หากครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบให้สายการบินเชิงพาณิชย์อื่นๆเป็นอย่างไร การบินไทยก็จะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวด้วย เพราะรัฐบาลต้องถือหลักความเสมอภาคตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
