09.00 INDEX คำถาม มาตรฐาน ‘ประชาธิปัตย์’ จริยธรรม รัฐมนตรี ร่วมรัฐบาล
การเคลื่อนไหวล่าสุดภายในพรรคประชาธิปัตย์ “แหลมคม” และสำคัญเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
เหมือนกับเป็นการกดดันกันเอง ”ภายใน” พรรคประชาธิปัตย์
แต่เนื่องจาก “เรื่อง” ที่ยกมากดดันหัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร พรรคสัมพันธ์โดยตรงไปยังรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐจึงเท่ากับ
1 กดดันพรรคพลังประชารัฐ
และเนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ และดำรงตำแหน่งเป็น รองนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย
จึงเท่ากับเป็นการกดดันต่อรัฐบาล กดดันต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ
นี่คือผลสะเทือนจากญัตติอภิปราย ”ไม่ไว้วางใจ”
หากถือเอาบรรทัดฐานของพรรคประชาธิปัตย์ที่จัดวางเอาไว้ตั้งแต่ยุค นายควง อภัยวงศ์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เรื่อยมาจนถึงยุค นายชวน หลีกภัย
ต้องยอมรับว่าเมื่อผ่านสถานการณ์ 2 สถานการณ์ในทางการเมือง
1 คือญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มติ 24 ต่อ 17 ภายในพรรคประชาธิปัตย์ถือได้ว่าท้าทายต่อ ”บรรทัดฐาน” ทางการเมืองเป็นอย่างสูง
ขณะเดียวกัน 1 เมื่อประสบกับวิกฤตในการเผชิญประสบกับปัญ หาโรคระบาดไวรัส โควิด-19 ที่มีความอื้อฉาวในเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการขาดแคลนหน้ากากอนามัย
ทำให้ตะกอนอันนอนก้นในเรื่อง ”ความไว้วางใจ” กลายเป็นปัญหา กลายเป็นคำถามต่อบรรทัดฐานและมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์
คำถามจึงมิได้อยู่ที่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตามข้อเสนอของสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคหรือไม่
หากแต่อยู่ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะกำหนดท่าทีและออกมาเป็นมติอย่างไร
ต่อเครดิตของรัฐมนตรีบางคนจากพรรคพลังประชารัฐ
จะยังคงให้ความไว้วางใจอยู่ หรือว่าจะมีข้อเสนอแนะอย่างสร้าง สรรค์ให้กับรัฐบาลให้กับนายกรัฐมนตรีด้วยความห่วงใย
เป็นการตัด ”อวัยวะ” บางส่วนเพื่อรักษาชีวิตของ ”รัฐบาล”