ปรับชีวิต-อยู่ให้เป็น บริหารจัดการความเครียด รับมือ “พีเอ็ม2.5-โควิด-19”
ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับทั้งมลภาวะฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 และการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ทำให้การดำรงชีวิตของคนทั่วโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เพียงแต่ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป แต่การเสพข่าวต่างๆ อาจทำให้เกิดเป็นความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว
ธัญ แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม จึงได้แนะนำวิธีการบริหารจัดการความเครียด ด้วยเครื่องหอมจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ธัญ โฮม อะโรมา” พร้อมเชิญเซเลบริตี้หนุ่มสาว อาทิ แนท-ธนวลัย วัชรพล, ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ ร่วมเผยเคล็ดลับการเลือกกลิ่นหอมพร้อมวิธีผ่อนคลายความเครียดในแบบฉบับของตนเอง
อวน-วยา ดุลยบวรกุล โฮมสไตลิสต์สาว เผยถึงการแต่งบ้านว่า การแต่งบ้านเพื่อรับมือกับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 นั้น ควรเน้นความโล่งและโปร่งเป็นอันดับแรก และควรทำความสะอาดบ้านทุกวัน ลดปริมาณการสะสมของฝุ่นที่จับอยู่แต่ละที่ รวมถึงลดปริมาณเฟอร์นิเจอร์และการใช้ของตกแต่งบ้านที่ไม่จำเป็นให้น้อยชิ้น เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ทั้งปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หรือเพิ่มการติดมุ้งลวดหรือม่านประตู หน้าต่างเพิ่มอีกชั้นเพื่อดักจับฝุ่นละออง ซึ่งปัจจุบันมีมุ้งลวดและม่านกันฝุ่นหลากดีไซน์ให้เลือก
ส่วนการแต่งบ้านให้รู้สึกผ่อนคลายนั้น โฮมสไตลิสต์สาวเผยว่า การสร้างบรรยากาศถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแจกันดอกไม้สด มิกซ์แอนด์แมตช์สีสันและสายพันธุ์ของดอกไม้ตามชอบ เพิ่มความเป็นธรรมชาติ สบายตายามมองเห็น หรือสามารถสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกระจายความหอมหรือก้านไม้ รวมไปถึงเทียนหอม
ขณะที่ หมอนุ่น-พญ.ดุจฤดี อภิวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช เผยว่า ความเครียดเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดจากการที่คนเราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้รู้สึกกดดัน วิตกกังวล กระทั่งสภาวะจิตใจที่เปลี่ยนไปในด้านลบ เมื่อสมองรับรู้ก็จะส่งผลเสียต่อการทำงานของฮอร์โมนทันที ทำให้ร่างกายมีสภาวะหัวใจที่เต้นแรง เหงื่อออก มือเท้าเย็น ปวดท้อง กระวนกระวาย หรือสมาธิไม่ดี หากใครต้องเผชิญกับความเครียดอยู่เป็นเวลานาน โดยไม่มีวิธีผ่อนคลาย ก็จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพตามมา เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ เป็นจุดเริ่มต้นของอาการซึมเศร้าได้
พญ.ดุจฤดี เผยอีกว่า ความเครียดนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระดับ ได้แก่
ระดับต่ำ เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย ขาดแรงกระตุ้น รวมทั้งพฤติกรรมเชื่องช้าลง,
ระดับปานกลาง เกิดจากเหตุการณ์ที่ผิดปกติจากชีวิตประจำวัน ไม่ก่ออันตรายแต่ก็ไม่แสดงออกชัด ส่วนใหญ่จะปรับตัวกลับสู่สภาวะปกติ คลายเครียดได้จากกิจกรรมที่ชื่นชอบ,
ระดับสูง เกิดจากเหตุการณ์รุนแรง หากปรับตัวไม่ได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ ความคิด เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และมีพฤติกรรมการนอนและกินที่เปลี่ยนไปจนมีผลต่อการดำเนินชีวิต
และระดับรุนแรงและเรื้อรัง ทำให้มีความล้มเหลวในการปรับตัว ก่อให้เกิดความผิดปกติและโรคต่างๆ รวมทั้งอาการทางจิต ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ควรปรึกษาจิตแพทย์
“สถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งมลภาวะฝุ่นและโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความเครียดในระดับปานกลาง-สูงได้ ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของแต่ละคน ควรสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้าง เช่น ปวดศีรษะ ใจสั่น วิตก กระวนกระวาย หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจ เช่น ซึมเศร้า หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนง่าย”
นอกจากนี้ ยังแนะนำวิธีการบริหารจัดการความเครียดว่า เริ่มจากการพูดคุยกับคนที่เราวางใจ หรือหากิจกรรมสนุกทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจสงบได้ หากเครียดในระดับรุนแรงให้พบจิตแพทย์ เพื่อเยียวยารักษา
นอกจากนี้ การใช้กลิ่นหอมบำบัดมาช่วยในการสร้างบรรยากาศถือเป็นสิ่งหนึ่งที่บรรเทาความเครียดได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะกลิ่นธรรมชาติ เมื่อจมูกรับกลิ่นเพียงไม่กี่วินาที จะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ หลั่งสารเอ็นโดรฟิน ช่วยลดความเจ็บปวด คลายความเครียด, เอ็นเคฟาลิน ลดอาการซึมเศร้า และเซโรโทนิน ช่วยทำให้สงบ เยือกเย็น และผ่อนคลายจากสภาวะเครียดได้
ขณะที่ เซเลบริตี้อย่าง ไท้-วสุวัส คูหาเปรมกิจ เล่าว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เราต้องหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน โดยเฉพาะที่ที่มีคนหนาแน่น เลยปรับรูปแบบการตกแต่งพื้นที่ใช้งานต่างๆ เลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์มินิมอล น้อยชิ้น ง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนตัวชอบใช้กลิ่นหอมในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ทำให้สงบ มีสมาธิ คลายกังวล ชอบกลิ่นแนวสดชื่นแต่แฝงความอบอุ่น ผ่อนคลาย
หอมขจัดเครียด
