คลุกวงหุ้น : “โกลเบล็ก” เชื่อดัชนีหุ้นไทยยังไม่ถึงจุดต่ำสุด หากโควิด-19 ยังหาจุดพีคไม่เจอ (ชมคลิป)

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ประเมินว่ายังหนักหน่วงอยู่พอสมควร หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับลดระดับลงร้อนแรงมาก จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องใช้มาตรการหยุดการซื้อขายอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) 2 ครั้งภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่มีตลาดหุ้นมาแต่ตลาดหุ้นต่างประเทศ ก็มีการใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ด้วยเช่นกัน หลังจากดัชนีปรับลดลงรุนแรง อาทิ สหรัฐเกาหลีใต้ อินเดีย โดยเชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยยังปรับระดับลงไปไม่ถึงจุดต่ำสุด หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่สามารถคลายตัวได้ รวมถึงมีการพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญ ก็อาจเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน และกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง

นางสาววิลาสินีกล่าวว่า แนวโน้มในสัปดาห์นี้มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยโควิด-19 ประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน มีมากและรุนแรงขึ้น รวมถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ที่ตรวจพบเพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มจำนวนหลายราย จะเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่อไป และทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยจากสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด-19 ทำให้สายการบินลดเที่ยวบินลง และมีการปิดประเทศของหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง รวมถึงยังมีสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ราคาน้ำมันจึงยังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก หากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) และกลุ่มพันธมิตรยังไม่สามารถตกลงกันได้

การที่ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือพยุงตลาดทุนไทย มองว่าเป็นแนวทางรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น เพื่อไม่ให้ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนจนสร้างความตกใจให้กับนักลงทุน แต่ยังต้องมาประเมินในแง่การทำประชาพิจารณ์หรือดูในรายละเอียดว่า จะมีส่วนได้หรือส่วนเสียมากน้อยอย่างไร สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเมินว่านักลงทุนน่าจะมีการขายและถือเงินสดกันค่อนข้างมาก ทำให้ยังไม่ต้องรีบ ทยอยดูทิศทางตลาดเพื่อให้มั่นใจก่อนว่าสถานการณ์มีแนวโน้มคลายตัวหรือยัง แล้วค่อยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีปันผลสูง และหากในอนาคตมีการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการออม (เอสเอสเอฟ) สำเร็จ ก็อาจเข้ามาลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจต่อไปนางสาววิลาสินีกล่าว

ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image