ภาคเหนือ 8 สถานีอากาศย่ำแย่ เผชิญฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน
ภาคเหนือกว่า 8 สถานี ใน 4 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พบค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หนักสุดที่ ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 223 มคก./ลบ.ม.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มีนาคม กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 27 สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 27 – 223ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศดีถึงมีผลกระทบกับสุขภาพ ซึ่งพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) มี 8 สถานี คือ ต.เวียง อ.เมือง 123 มคก./ลบ.ม.,ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 223 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง 111 มคก./ลบ.ม., ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 97 มคก./ลบ.ม., ต.สุเทพ อ.เมือง 114 มคก./ลบ.ม.,ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 167 มคก./ลบ.ม., ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 146มคก./ลบ.ม. และ ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 97 มคก./ลบ.ม.
ส่วนพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) มี 12 สถานี คือ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 63 – 224 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 มคก./ลบ.ม.เกินมาตรฐาน 8 สถานี คือ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จุดความร้อนใน 9 จังหวัดภาคเหนือลดลงต่อเนื่องยกเว้น จ.แม่ฮ่องสอน ที่จุดความร้อนเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มจุดความร้อนจะลดลง แต่ก็ยังคงพบจุดความร้อน จำนวนมากใน จ.เชียงใหม่ 377 จุด และ จ.แม่ฮ่องสอน 364 จุด
ส่งผลให้ ฝุ่นละอองพีเอ็ม2.5 ใน จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ตาก มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นายประลอง กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบจุดความร้อนในประเทศเมียนมา เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้เกิดหมอกควันหนาแน่น ประกอบกับพบจุดความร้อน จำนวนมากบริเวณชายแดนไทย-ลาวเขตพื้นที่ จ.น่าน จ.เชียงราย จ.ตาก และตอนบนของ จ.เชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเมียนมา
และในส่วนของ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ได้รับผลกระทบจากการเผาบริเวณชายแดน
นายประลอง กล่าวอีกว่า ทางด้านปลัด ทส. ได้สั่งการเร่งด่วนให้จัดการประชุมวีทีซีร่วมกับ กองทัพภาคที่ 3 และ 17 จังหวัดภาคเหนือ ในวันนี้ (26 มี.ค.) เพื่อติดตามสถานการณ์ รับฟังข้อคิดเห็น ปัญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไขปัญหาของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง คพ.อยู่ระหว่างการประสานงานกับ สำนักงานเลขาธิการอาเซียน และประเทศเมียนมา เพื่อจัดให้มีการประชุม วีทีซีระหว่างอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ของทั้ง 2 ประเทศ ในประเด็นการลดจุดความร้อนและการแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนที่ประสบปัญหาในปัจจุบัน
