ย่ำไปในดงเพลง : บ้านของเรา และของเขา : โดย เขบ็ดหัวโต

ย่ำไปในดงเพลง : บ้านของเรา และของเขา : โดย เขบ็ดหัวโต

ย่ำไปในดงเพลง : บ้านของเรา และของเขา : โดย เขบ็ดหัวโต

แล้วเวลาที่คาดไว้ก็มาถึง

มาตรการบังคับให้คนทั่วไปอยู่กับบ้าน (ความจริงคือเคลื่อนย้ายให้น้อยที่สุด) ทยอยประกาศบังคับใช้ออกมา

แน่นอนว่า ทำให้เกิดความไม่สะดวก เกิดปัญหา เกิดความอึดอัดคับข้อง

Advertisement

แต่เมื่อยังไม่มีวิธีการที่ดีกว่าในการลดความสูญเสียชีวิต-ทั้งของตนเองและคนรอบข้าง

บางครั้งมนุษย์ก็ต้องยอมสละอิสรภาพและเสรีภาพบางส่วนหรือทั้งหมด เป็นการชั่วคราว เพื่อให้วิกฤตหรือปัญหานั้นผ่านไปได้

สำหรับบางคน หยุดอยู่บ้านก็อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

Advertisement

ยังมีกิน มีใช้ ครองชีวิตได้เกือบตามปกติ

เหมือนกับเพลงนี้

บ้านของเรา

ผลงานประพันธ์คำร้องของ ครูศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน

ขับร้องโดยคุณเลิศ ประสมทรัพย์

ความเป็นอัจฉริยะของครูเอื้อนั้น ไม่ได้อยู่แค่การแต่งเพลงหรือเล่นดนตรี

แต่ยังอยู่ที่การ “อ่านขาด” ว่าคนในปกครอง หรือลูกน้องในวงนั้น

ใครมีดีอะไร และควรจะเอาขึ้นมาใช้เมื่อไหร่

ดังเช่นเพลงนี้

ถ้าไม่ได้ยินกับหู หลายคนก็คงไม่เชื่อว่านี่คือเพลงที่คุณเลิศเป็นผู้ขับร้อง

เพราะ “บุคลิก” ที่วงสุนทราภรณ์วางเอาไว้ให้-และความสามารถพื้นฐานดั้งเดิมของคุณเลิศ

คือการร้องเพลงเร็ว ร้องเพลงสนุก

สมัยหนุ่มๆ ที่เร่ประกวดร้องเพลง และเริ่มอาชีพนักร้องยุคแรกๆ ก็โด่งดังจากเพลงโห่

เพราะเสียงทรงพลัง ทั้งสูง ทั้งลึก ทั้งกว้าง

พออยู่กับสุนทราภรณ์ ที่ได้ขับร้องส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงเร็ว เพลงตะลุง

แต่ครูเอื้อเจาะจงว่าเพลงนี้คุณเลิศต้องร้อง

แล้วก็ “แจ๊กพ็อต”

เสียงร้องแบบหวานๆ เย็นๆ และฟังซื่อจริงใจ ตรึงอารมณ์ใครก็ตามที่ได้ฟัง

ส่งให้เพลงขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งในเพลงอมตะของวง

ใครมีบ้าน ใครที่อยากมีบ้าน ฟังแล้วก็อยากจะให้บรรยากาศในบ้านเป็นอย่างเพลงนี้ทั้งนั้น

คุณเลิศ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2466 บ้านตรอกสาเก หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์

เรียนหนังสือห้องเดียวกับ สุปาณี พุกสมบุญ และ สมพงษ์ ทิพยะกลิน อดีตนักร้องและนักดนตรีวงสุนทราภรณ์

แล้วไปต่อช่างก่อสร้างอุเทนถวาย รุ่นเดียวกับ เล็ก อ่ำเที่ยงตรง และ คำรณ สัมบุญณานนท์

ชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ โดยมักจะเข้าไปประกวดตามงานวัด จนกระทั่งกรรมการต้องขอร้องให้เลิกประกวด มาเป็นกรรมการแทน

นักร้องประกวดรุ่นเดียวกัน ได้แก่ ค.สำมะรงค์ (คำรณ สัมบุญณานนท์), ล.สำมะรงค์ (เล็ก อ่ำเที่ยงตรง), ต.กิ่งเพชร (ชาญ เย็นแข), ณรงค์ ณ วังน้อย (ณรงค์ ธนวังน้อย)

เริ่มต้นศึกษาด้านการดนตรีจาก ครูล้วน ควันธรรม ก่อนเข้าสังกัดเป็นนักร้อง วงดนตรีสุนทราภรณ์รอบแรกเมื่อปี 2483

นอกจากร้องเพลงแล้วยังเป่าทรัมเป็ต และตีกลอง

2497 สมัครเป็นทหารอาสาในสงครามเกาหลี ในหน่วยบำรุงความสุข (ดนตรี) รุ่นเดียวกับ ครูธนิต ผลประเสริฐ และ ครูใหญ่ นภายน เป็นเวลา 1 ปี

กลับมาแล้ว ได้รับการบรรจุเข้าเป็นนักร้องของกรมประชาสัมพันธ์อีกครั้งในปี

และรับราชการอยู่จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในปี 2527

ผลงานสร้างชื่อ ทั้งเพลงเดี่ยว และเพลงคู่ อาทิ เริงลีลาศ, ข้างขึ้นเดือนหงาย, ใครจะเมตตา, บ้านของเรา, จริงหรือ พ่อค้าเรือเร่, แขกครวญ, โลกยังรักเรา, มนต์นางรำ, ชมนาง, ชาวทุ่ง, บุญหรือกรรม, ริมฝั่งน้ำแพงม้า, หนุ่มใต้ฝันหวาน, หนีไม่พ้น,

ไพรพิสดาร, นกเขาไพร, จุดไต้ตำตอ, ฝนจ๋าฝน, พนาโศก, ครูสอนรัก, คู่รักคู่ขอ, หนุ่มง้อสาวงอน, พักร้อน,

ตะลุงมอญซ่อนผ้า, ตะลุงแมลงแฝงคอกไม้, ตะลุงสุขใจ, ตะลุงถ้ารักจริง ฯลฯ

เพลงส่วนใหญ่ที่ครูเอื้อป้อนให้มักจะออกมาในแนวตลก สนุกสนาน

และมักจะร้องคู่กับ คุณศรีสุดา รัชตะวรรณ เป็นส่วนใหญ่ จนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสามี-ภรรยากัน

แต่ภรรยาในชีวิตจริงคือ ม.ล.ปราลี มาลากุล ธิดาพระยาเทวาธิราช (ม.ร.ว.เทวาธิราช ป.มาลากุล) อดีตสมุหพระราชพิธีและที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง

ที่ถือเป็นตำนานรักทรหดเรื่องหนึ่งได้เลย

ทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2499 ในงานวันเกิดหม่อมกอบแก้ว อาภากรฯ ที่วงสุนทราภรณ์ไปแสดงในงานด้วย

แต่รักต่างชนชั้นนั้นต้องอาศัยเวลาในการพิสูจน์ตัวเองยาวนาน

กว่าทั้งสองจะได้สมรักและสมรสกันจริงก็ 16 ปีผ่านไป

ในวันสมรส ครูเอื้อ และ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล แต่งเพลงให้เป็นของขวัญ โดยมีเนื้อร้องว่า

“สิบสองพฤศจิกสองห้าหนึ่งห้า วันมหาทักษารักสมัครสมาน ปราลีบวกเลิศประเสริฐนาน ร่วมสมการงานรักสมัครใจ เพราะเลิศมีอะไรดีที่เป็นเลิศ ปราลีจึงบังเกิดความรักใคร่ ปราลีมีความสูงจูงจิตใจ เลิศจึงได้เอื้อมคว้ามาเชยชม ขออวยชัยให้ทั้งสองครองรักมั่น แนบสัมพันธ์นิรทุกข์เป็นสุขสม มีแต่รักรักกันมั่นนิยม ให้ชื่นชมสมสุขทุกกาลเอย”

ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ วาทิต ประสมทรัพย์ สมรสกับ นางวริศรา ประสมทรัพย์

บั้นปลายชีวิต ล้มป่วยด้วยโรคเบาหวาน จนถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2543

สิริรวมอายุ 68 ปี

บ้านในเพลงของคุณเลิศนั้นเปี่ยมรัก และสะท้อนบรรยากาศของชนชั้นกลาง-บ้านมีรั้ว

จะให้กักตัวอยู่ในบ้าน 14 วัน ไปเป็นปี ถึงมีปัญหาก็คง “พอไหว”

แต่ถ้าเป็นบ้านในสลัม รั้วไม่มี หายใจแออัดยัดกันอยู่ และอาจจะต้องว่างงานชั่วคราวไปถึงถาวร

ในขณะที่ปากท้องทั้งของตัวเองและลูกเมีย ยังต้องกินต้องอยู่ทุกวัน

ใครที่จะออกมาตรการให้เขาอยู่ในบ้าน ช่วยคิดถึงความเป็นจริงในชีวิตเขาด้วย

และพึงมีมาตรการรองรับ ให้การ “เสียสละ” นี้คุ้มค่าด้วย

บ้านของเราร่มรื่นเป็นสุขอยู่บ้านเดียวไม่ได้

ถ้าบ้านรอบข้างของเราร้อนเป็นไฟ

https://www.youtube.com/watch?v=sEleOwbtDUE

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image