สุดเข้ม! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ออกคำสั่ง สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้งเมื่อออกนอกที่พัก ฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่น

สุดเข้ม! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ออกคำสั่ง สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้งเมื่อออกนอกที่พัก ฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 เมษายน 2563 ได้มีคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่1829 / 2563 เรื่องมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโควิด -19 เกี่ยวกับการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากที่พัก และห้ามกระทำการหรือดำเนินการใดใด ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

โดยระบุใจความว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ได้ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่3) พ.ศ.2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 โดยกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาด ในจังหวัดภูเก็ต พบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา22และมาตรา34 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

ประกอบข้อ7 (1) ประกอบข้อ 11 และข้อ 14 ของข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2558 (ฉบับที่1 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 11 ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการดำเนินการหรือออกคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2560 ประกาศ ณ วันที่22 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่16 / 2563 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 จึงกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอให้ผู้ใดที่จะออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตน ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง และห้ามกระทำการหรือดำเนินการใดใดซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป

Advertisement

การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนในทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้อย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้อาจเป็นความผิดตามมาตรา51แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 (ฉบับที่1)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

Advertisement

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image