บทนำ : ปลดล็อกศก.
ภาครัฐและเอกชนเริ่มพิจารณาผ่อนปรนให้ธุรกิจบางประเภทกลับมาเปิด
ดำเนินการได้ ฝ่ายค้านเองก็สนับสนุนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย เสนอว่า จากนี้ไปต้องทยอยปลดล็อกบางมาตรการ หรือบางกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่พอจะสามารถปลดล็อกเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ ซึ่งตั้งแต่ช่วงที่มีการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้น มีการตั้งคำถามว่า รัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับที่เพียงพอหรือเป็นระบบ จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์เจอปัญหาใหญ่ ดังนั้น ตอนจะคลายล็อกต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างเป็นระบบ และต้องคิดตั้งแต่วันนี้ และหากพบว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจใดสามารถปลดล็อกได้ก่อนก็ต้องทำ
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หากไม่มีการปลดล็อก เราอาจจะตายจากพิษเศรษฐกิจ มากกว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 พร้อมกับกล่าวถึงเงินเยียวยาโควิด ว่าวันนี้ประชาชนไม่รู้ว่าระบบคัดกรองมีวิธีการอย่างไร บางคนไม่เคยเกี่ยวข้าวเลยแต่ระบบบอกว่าเป็นเกษตรกร บางคนขายของในตลาดนัด แต่ระบบกลับบอกว่าเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีความผิดปกติเกิดขึ้นจำนวนมาก ผลจากการล็อกดาวน์ ทุกอย่างกะทันหัน สร้างความเดือดร้อนให้กับชีวิตของผู้ยากไร้ ผู้ใช้แรงงาน อาชีพรับจ้างทุกอาชีพและอาชีพอิสระมากกว่า 40 ล้านคน เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจในแทบทุกระดับต้องหยุดชะงักหมด ผู้คนไม่สามารถหารายได้ บางส่วนตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีปัญหา บางส่วนกำลังจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นขโมย วันนี้งบประมาณมีแล้ว เพราะตอนไม่มีท่านก็ไปกู้ ก็ควรยิงศรให้ตรงเป้า เยียวยาให้ถูกคน
การปลดล็อก เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงมีความสำคัญและอ่อนไหวเป็นพิเศษ ต้องดำเนินการไปพร้อมกับการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนให้ถูกคน ขณะเดียวกัน ต้องมีมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดไปพร้อมกันอย่างทันท่วงที จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและลูกค้าที่จะมาใช้บริการ สิ่งสำคัญ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดจะต้องนำเสนออย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปกปิดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมก่อนเป็นอันดับแรก
